17 February 2007

ไหว้อาม่า / วันไหว้ตรุษจีน

แม่ของพ่อ (อาม่า) เป็นผู้หญิงใจดีมาก รักพ่อมากด้วย อาจเป็นเพราะเป็นลูกคนสุดท้องมั้ง พ่อจะใหล้ชิดกับอาม่ามากกว่าอากงมาก แต่ก็ไม่ได้ใกล้ชิดเหมือนกับพวกเราในวันนี้ สมัยก่อนการสร้างฐานะเพื่อเรื่องสำคัญยิ่งสำหรับคนจีน เรื่องครอบครัวจึงมาทีหลัง พ่อกับอาม่าแทบไม่เคยกอดกันเลย จนวันสุดท้ายที่อาม่านอนบนเตียงคนป่วยที่ไม่มีความรู้สึกแล้ว รอเวลาสิ้นใจ พ่อจึงได้กอดอาม่า แต่ก็สายไปแล้ว เขาไม่รู้สึกแล้วล่ะ แต่พ่อก็กระซิบที่ข้างหู "ถ้าชาติหน้ามีจริง พ่อก็ขอเกิดมาเป็นลูกอามาอีก" ด้วยหวังว่าประสาทสุดท้ายของการรับรู้ของคนก่อนตาย ก็น่าจะเป็นหูนี่แหละ แต่จะได้ยินหรือไม่ก็ตาม วันนี้ วันที่พ่อมาไหว้รูปอาม่า พ่อก็ยังคงอธิฐานเหมือนเดิม นี่กระมังที่เรามักจะสอนกันต่อๆมาว่าถ้าเราคิดจะทำดีต่อกัน จงทำวันที่เขามีชีวิตอยู่
ก่อนถึงวันตรุษจีน ๑ วัน จะนับเป็นวันไหว้ ไหว้เจ้า และบรรพบุรุษ ปีนี้เช่นกัน เรามาไหว้อาม่ากัน อาหารจากการไหว้ก็เอามากินกันตามประเพณี และสุดท้ายอากงก็ฝากเงินแต๊ะเอีย ให้กับเมฆและเมือง คนละ ๑พันบาทด้วย

13 February 2007

สามแม่ลูก

เมื่อวันก่อน (11กพ)คุณยายเกิดก้าวลงจากเตียงผิดท่าไปหน่อยจนเส้นพลิก มีกาการเจ็บๆเสียวๆจนเดินแทบจะไม่ได้ แต่ด้วยใจสู้บวกกับอยากออกไปกินข้าวหน้าไก่ห้าแยก จึงออกไปด้วยกันโดยรับน้าเดียร์ไปด้วย เท่านั้นยังไม่พอ ไปต่อที่เจ้เล้ง (ร้านขายของใกล้สนามบินดอนเมือง เน้นพวกของนอก เครื่องสำอางเลี่ยงภาษี) แล้วยังมาต่อที่ตลาดบองค์มาเช่ สุดยอดเลยในภาพนี้ได้ลูกสาว(ใจสู้ไม่ด้อยไปกว่ากัน)จูงขนาบข้าง

msn

การไปต่างประเทศเดี๋ยวนี้ต่างกับเมื่อก่อนนี้มากเลย เดี๋ยวนี้การพูดคุยเป็นเรื่องธรรมดามาก โชคดีที่แม่มีเทคโนโลยีแบบนี้มารองรับ ไม่งั้นคงคิดถึงกันจนขาดใจแน่เลย ขอบคุณMSN

09 February 2007

กลับมาด้วยแอร์เอเชีย ที่พิมพ์รูปหนังพระนเศวรไว้
ที่โรงแรม หลังจากออกไปชอปปิ้งกันมาทั้งคู่
นี่เป็นกองกระสอบข้าวเปลือกที่เริ่มทยอยบริจาคเข้ามา กว่าจะถึงวันงานในวันที่ 11 คงจะสูงเท่าภูเขาแน่
มาครั้งนี้เป็นการรำลึกความหลัง ที่เพิงนี้คุณยายเคยมาปฏิบัติธรรม เป็นสิบปีมาแล้วนะ ก่อนหน้านั้นยายว่าลำบากเหลือเกิน แคร่นี้จะอยู่ในป่า อยู่ในนี้ทั้งวัน
ระหว่างรอที่จะตักบาตรคุณยายก็ยังคงเล็คเชอร์เรื่องบุญอยู่ตลอด โปรดสังเกตสีหน้าคุณแม่จะค่อนข้างเว็งเชียวแหละ นี่อาจเป็นด่านหนึ่งที่เราต้องข้ามให้พ้น เมื่อโกรธก็ต้องรู้ว่าโกรธ
ฟ้าสางแล้ว อากาศก็เย็นมาก คุณยายกับแม่ยืนรอที่หน้าวัด
นี่เป็นศาลาภาในวัด ภาพพระทางซ้าย น่าจะเป็นหลวงปู่มั่น พรอาจารย์สำคัญทางสายพระป่า
เช้าขึ้นเราตื่อนตั้งแต่ตี4ครึ่ง แล้วก็ออกไปตลาดเพื่อซื้อกับข้าวทำบุญกัน
8กพ.พ่่อ แม่ และยายออกเดินทางไป วัดป่าบ้านตาดกัน จริงๆแล้วคุณยายอยากให้ไปในวันที่11 กพ.มากกว่า เพราะที่วัดจะมีงานทำบุณข้าวเปลือกกันซึ่งคนจะมาทำบุญกันมากมาย แต่พ่อขอว่าไปก่อนดีกว่า พ่อกับแม่ต้องการตักบาตรกับหลวงตา ไม่ได้ต้องการไปพบคนมากๆ สุดท้ายคุณยายก็ยอม เราจองตั๋วแอร์เอเชียไปจังหวัดอุดรธานี ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไปถึงก็ค่ำแล้วก็เข้าโรงแรมเลย โรงแรมชื่อ เจริญโฮเต็ล ฟังดูเชยเนอะใช้ชื่อไทยอย่างนี้ คนไทยที่ช่างไม่ภูมิใจในภาษาของเรากันเลย

06 February 2007

lesson 1

บทเรียนแรกให้เมืองดูขั้นตอนการทำ เมฆดูด้วยก็ไม่ผิด รู้ไว้ใช่ว่านะ แต่การดูตามลำดับต้องดูจากล่างขึ้นบนนะ

ขั้นสุดท้ายนี้ เราเปิดnewขึ้นอีกไฟล์หนึ่งเป้นขนาด A4 เพื่อให้สะดวกในการพิมพ์ แล้วก็ย้ายไฟล์ที่เราทำมาไว้ในไฟล์ใหม่ เป็นอันเสร็จพิธี

อันดับที่16 ขาวดำยังไม่พอต้องการให้น้ำหนักจัดขึ้นก็มาปรับที่ image > adjustment >brightness/contrast

ลองปรับ2ตัวบนให้ไปที่ซ้ายสุด ภาพก็จะกลายเป็นขาวดำ

ขั้นที่ 14 เรากำลังจะปรับจากภาพสีเป็นขาวดำ โดยไปที่ image > adjustment > hue/saturation

ขั้นที่13 (1)เมื่อเรารวเลเยอร์แล้ว (2)เรากำลังจะครอปรูปโดยเลือกที่ image> crop

ขั้นที่ 12 ลืมบอกไปว่าต้องเซฟงานไว้เสมอ สังเกตดูว่าชื่อไฟล์มันเปลี่ยนไปแล้วเมื่อเราเซฟแล้วเปลี่ยชื่อใหม่ การเซฟนี้จะอยู่ในฟอร์แมทของโฟโตชอป (psd) แต่ลำดับต่อไปเราจะรวมเลเยอร์ทั้งหมด เพื่อจะเซฟแอสเป็นjpec อีกชิ้นหนึ่ง และะดวกในการครอปภาพต่อไป

ขั้นที่ 11 โยนรูปสุดท้ายเข้าไปแล้วก็ต้องบริหารเลเยอร์อีกให้ดี

ขั้นที่ 10 โยนรูปที่5 เข้าไปใหม่ แต่มันไปบังรูปที่1 เราจึงต้องไปปรับที่เลเยอร์โดยลากรูปที่5นี้ให้ต่ำลง

ขั้นที่ 9 ตัดบางส่วนออก

ขั้นที่8 ก็อปปี้รูปที่ 3อีกครั้งหนึ่ง แล้วหลิกรูปกลับซ้ายขวาโดยเลือก edit > transform > flip horizontal

ขั้นที่7 การใช้เลเยอร์ในโฟโต้ชอปเป็นเรื่องจำเป็นมาก (1)เราต้องการให้รูปที่3เข้าไปอยู่ใต้รูปที่2 เราก็ต้องดึงเลเยอร์ให้ลงมาต่ำ (2)เราต้องการตัดบางส่วนในรูปที่2

ขั้นที่6 เอารูปที่3เข้าไปแล้วก็ต้องจับเอียงrotate เหมือนขั้นที่แล้ว

ขันที่5 บังเอิญว่าท้องฟ้ามันดันไปบังรูปข้างล่าง เราก็เลยต้องลบออก (1) เพื่อให้เหมือนกับ (2) ในต้นฉบับ

ขั้นที่4 โยนรูปที่2เข้าไปด้วยวิธีเดียวกันกับขั้นที่ 3 แต่บังเอญว่ารูปนี้เราต้องปรับตะแคงลงมา 1 เราจึงเลือที่ edit > transform > rotate เมื่อมีสัญญาลักษณ์ขึ้นที่รูปแล้ว 2 เราจึงเอาเคอเซอร์ไปหมุนตามต้องการ

ขั้นที่3 เปิดไฟล์ใหม่ ด้วย NEW ตั้งเรสโซรูชั่น ที่72 dpi ตั้งขาดประมาณซัก 30 ซม. (ใหญ่ไวก่อน แล้วค่อยมาครอปที่หลังได้) ลำดับต่อไป เราคลิ๊กที่รูป 1ให้แอคทีฟ 2แล้วก็แดร็กรูปจากเลเยอร์ โยนเข้าไปในกระดาษที่เตรียมไว้

ขั้นที่ 2 ทำทั้งสี่รูปด้วยวิธีเดียวกัน

ขั้นที่ 1 หลังจากเราคัดรูปที่จะใช้ออกมาแล้ว ก็เอารูปแรกมาเปิดในโฟโต้ชอป ในที่นี้เราต้องการเรียนรูปวิธีการเท่านั้น ยังไม่ได้เน้นคุณภาพของรูป พ่อจึงอิมเมจไซส์ ที่72 dpi เพื่อให้ภาพเบาๆ ทำงานง่ายๆ ส่วนขนาดกว้างยาวพ่อยังไม่ไปยุ่งเพราะมันก็ไม่ใหญ่เท่าไรอยู่แล้ว

05 February 2007

composition "friend"

อีกตัวอย่างหนึ่งสำหรับการจัดองค์ประกอบ วิธีทำอย่างไร แรกเริ่มเราต้องตั้งก่อนว่ามีอะไรบ้างที่เป็นองค์ประกอบ เช่น หน้าเพื่อนๆ ห้องเรียน รูปวาด การ์ดฯลฯ แล้วก็เอามาจัด ลองดูก่อนแล้วกัน

การคลี่คลาย ในงานศิลปะ

การเรียนวิชาศิลปะ มีวิชาหนึ่งเรียกว่า "องค์ประกอบศิลป์" (Composition) เป็นวิชาที่สนุก มันเป็นการทดลอง เป็นการพัฒนาเน้นในเรื่องของการจัดวาง อย่างรูปตัวอย่างต่อไปนี้ ทำง่ายๆ คิดไม่ยาก แต่ต้องกล้าตัดสินใจ การทำงานออกมาแต่ละครั้งอย่าไปคาดหวังว่ามันจะเป็นงานศิลปะชั้นยอดที่จะได้ดังใจ มันเป็นเพียงแบบฝึกหัดที่จำเป็นต้องทำ จำเป็นต้องส่ง ในเงื่อนไขที่กำหนด ในเวลาที่กำหนด ตอนพ่อสอนหนังสือจะมีนักเรียนมาพูดเสมอว่า"ยังไม่ได้ทำเลยครับ แต่คิดไว้แล้วอยู่ในหัว" "ทำแล้วครับ แต่มันยังไม่ดี ก็เลยไม่ได้เอามาส่ง" แล้วมันจะมีประโยชนือะไรวะ คนพวกนี้ชอบพูดว่า "ถ้างานไม่ดีกูไม่ทำหรอก" "งานอย่างมึงกูก็ทำได้ แต่กูไม่ทำหรอก" เชื่อไอ้พวกนี้สุดท้ายมันจะไม่ได้ทำอะไรได้เลย เพราะมัวแต่อาย มัวแต่มีฟอร์ม เอาล่ะบ่นมานาน เมืองลองดูนะ ลองทำด้วย การลงมือทำเองเท่านั้นจึงจะเกิดปัญญาขึ้นมา การมองเห็นแล้วเข้าใจนั้นยังไม่พอแน่นอน
นี่เป็นรูปเดิมที่ได้ให้ดูไปแล้ว เราก็ลองเอามาจัดวางใหม่ดังรูปต่อไปนี้
ด้วยรูปเดิม แต่ถ้าเรากล้ามาจัด ปรับเปลี่ยนใหม่ เราก็ได้งานอีกชิ้นหนึ่ง ดีกว่าหรือเปล่านั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่เราก็มีโอกาสเลือก ยิ่งถ้าเป็นการเรียนที่ต้องส่งอาจารย์ด้วยแล้ว ก็มีความจำเป็นอย่างมาก ลองคิดดูสินี่แค่การจัดวางเบบธรรมดา ไม่ได้ใช้เทคนิคพิเศษของโฟโต้ชอร์ปเลย ก็ยังสามารถสร้างงานเลย
ด้วยชิ้นส่วนเดิม ภาพเดิม จำนวนเดิม แต่กลับเอา space เข้ามาไว้ข้างใน มันก็กลับกลายเป็น form วิธีคิดเหมือนกันแหละ แต่เอามาจัดวางใหม่ แม้แต่กรอบเราก็เปลี่ยนสีได้ ไม่ผิดอะไร
แม้รูปเดียวกันเราเอามาทำเป้นภาพขาวดำ ก็ยังให้บรรยากาศที่เปลี่ยนไป นี่เป็นความสะดวกสบายของเทคโนโลยีสมัยสมัย ที่คอมพิวเตอร์สามารถอำนวยความสะดวกให้เราได้ แต่อย่าลืมว่า ถ้าเราทำได้คนอื่นก็ทำได้ (อันนี้ยังพอไหว) แต่ถ้าคนอื่นทำได้แล้วเราทำไม่ได้ล่ะ (อันนี้ต้องพิจารณาตัวเองแล้ว) เพราะฉะนั้นอย่าปล่อยให้วันคืนผ่านเลยไป จงเร่งฝึกฝนฝีมือเข้า ให้เรามายืนอยู่แถวหน้าให้ได้ คนแถวหน้าเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์เลือก