29 August 2008

พันธมิตร



น่าชมเชยอีกอย่างสำหรับการชุมนุมของผู้คนจำนวนมากขนาดนี้ กแต่การทิ้งขยะก็ยังเป็นระเบียบอย่างมาก ทั้งทุกคนที่ไปก็ดูจิตใจอัธยาศัยกันเป็นอย่างดีต่อกันจริงๆ เรียกว่า คอเดียวกัน
ภาพมุมกว้างของเวทีหลักในทำเนียบรัฐบาล และผู้คนที่ร่วมจำนวนมากมาย ทั้งในสนาม และบริเวณโดยรอบ หลายคนที่มาก็เหมือนมาเทียวงานวัดอย่างงั้นแหละ แม้ขณะที่เราไปนั้นจะเป็นช่วงค่ำมืด อากาศยังร้อนอบอ้าวพอควร แล้วถ้าเป็นตอนกลางวันล่ะจะร้อนขนาดไหน แต่คนจำนวนนับหมื่นก็ยังอดทนเพื่อให้ม็อบยังคงจำนวนคนเป็นเครื่องต่อรองอยู่ได้ ไหนจะห้องน้ำ ห้องอาบน้ำอีกมากมาย เราซะอีกที่หลบฟังข่าวสบายอยู่บ้าน อย่างดีก็บริจาคเงิน ดังนั้นการมาครั้งนี้จึงเสมือนมาขอบคุณพันธมิตรด้วย
ก่อนกลับก็เลยมาถ่ายรูปหมายจับที่ใหญ่ที่สุดในโลก น่าอนาถใจนะ ที่คนขนาดนี้จะโดนประจานได้ถึงเพียงนี้
มุมนี้ที่สะพานมัฆวาน ซึ่งเป็นเวที่เก่า ที่ตำรวจยึดไปแล้วในช่วงบ่าย แต่ก็ถุกยึดคืนในที่สุด คืนนี้จึงไม่ใช่เวทีหลัก
เมื่อมีคนมาร่วมจำนวนมากขนาดนี้ ไม่แปลกเลยที่จะมีร้านค้าตามไปด้วย ทั้งขายของที่ระลึก ของกิน แต่ร้านนี้เป็นร้านค้าในเครือของพันธมิตร เราก็เลยซื้ออุปกรเล็กๆน้อยๆเป็นที่ระลึก
เมื่อไปถึงมีการตรวจพอสมควร แม่ต้องปีนรั้วข้ามไป ก็ตื่นเต้นไปอีกแบบ
กลางวัน วันที่ 29 ส.ค. มีการสลายฝูงชนบางส่วน สร้างกระแสให้มีการตำหนิการใช้กำลังของตำรวจอย่างหนัก ค่ำนี้คุณแม่จึงมีความทนไม่ไหวแล้วจึงชวนพ่อไปร่วมแสดงพลังด้วยคน ซึ่งพ่อก็เห็นว่าคืนนี้น่าจะปลอดภัยที่สุดด้วย จึงร่วมกันไปสังเกตุการณ์

27 August 2008

ควันหลง รับปริญญา

ที่บ้านเพิ่งได้รับรูปที่ถ่ายเมฆรับปริญญาอย่างเป็นทางการมาแล้ว(จากที่จองไว้ที่สิงคโปร์) ก็เลยส่งมาให้ดูกัน

26 August 2008

ออกกำลัง

เพื่อสุขภาพ และจะลดความอ้วน ทีแรกก็ตั้งใจว่าจะไปโยคะ หรือฟิตเนสใกล้ๆบ้าน(แม่ไม่ชอบแคลิฟอร์เนีย) แต่ก็ยังเสียดายตั้งก็เลยทดสอบจิตใจด้วยการทำที่บ้านดูก่อน วันนี้รีบเรียกพ่อมาดู และขอให้ถ่ายภาพเป็นหลักฐานให้ลูกดูด้วย...ว่าแม่ทำจริงนะคะ..สู้ๆครับแม่..พรุ่งนี้อย่าลืมวิ่งอีกก็แล้วกัน

คุณแม่ยุคใหม่

ด้วยเพราะคุณแม่เริ่มมีฉันทะ ที่จะเรียนรู้คอมพิวเตอร์ พ่อก็คิดว่าไม่มีทางไหนที่จะเหมาะเท่าต้องมีคอมพ์ส่วนตัวอีกแล้ว ในวันที่25ส.ค.ตอนเย็น แม่มีนัดไปทานข้าวกับเพื่อนๆมาแตร์ พ่อก็เลยดอดไปพันทิพ ไปคว้ามาได้เครื่องหนึ่ง เป็นยี่ห้อใหม่กำลังเข้ามาทำตลาดคอมพ์ราคาถูกในไทย ชื่อ AXIOO ถูกกว่าACERที่ว่าถูกแล้วซะอีก ในสเป็กเดียวกัน ครั้งแรกว่าจะซื้อเนทบุ๊คเครื่องจิ๋วๆให้ แต่อย่าเลยดูแพงแถมยังไม่มีช่องDVDอีกแล้วแม่จะฟังธรรมะอย่างไรเล่า ก็เลยมาจบที่เครื่อง 12.1นิ้ว สเป็กดีพอตัวเลย ราคา 19,900 บาท พ่อกับเมืองก็ตกลงกันว่าเราจะช่วยกันสอนแม่อย่างใจเย็นที่สุด เพื่อให้เป็นคุณแม่ไฮเท็คให้ได้..ร่วมกันยินดีหน่อยครับ...เฮ

การปฏิบัติธรรม

สรุปว่าการปฏิบัติธรรมครั้งนี้ได้ผลดีมาก แม้ว่าในหลายเวลาพ่อจะมีความคิดขัดแย้งภายในตลอดเวลา แต่เราก็เห็นตัวเองว่าเรากำลังหมั่นไส้อยู่ ความคิดนั้นจะดี จะถูกหรือไม่ก็ไม่รู้ แต่รู้แล้วว่ากำลังคิด ..ก็น่าจะพอนะ แล้วก็สรุปได้อีกอย่างว่าคอร์ส 7 วันแบบของแม่ และของเมืองนั้น ครบถ้วนกว่า ได้ผลกว่า และดีกว่า

ห้องโถงชั้นบนที่ใช้เป็นห้องปฏิบัติ (และเป็นที่นอนสำหรับผู้ชายด้วย) ภายในเปิดแอร์เย็นสบาย ที่เห็นป้าผมขาวบนเวที คืออาจารย์เรณู ผู้เป็นเจ้าของคอร์สนี้ (3วัน2คืน) เป็นนักปฏิบัติและนักบรรยายตัวยงเลย แต่ปัจจุบันอายุมากแล้วจึงมิได้มาควบคุมด้วยตัวเอง จะมาเฉพาะวันเปิด และวันสรุปปิดท้าย ส่วนระหว่างนั้นจะเป็นเปิดวีดีโอบรรยายแทน แต่ก็มีวิทยากรให้คำแนะนำตลอดอยู่3-4ท่าน 2ภาพนี้ถ่ายในวันสุดท้ายตอนปิดแล้ว เพราะในระหว่างปฏิบัตินั้นไม่ควรหยิบกล้องออกมา ดูจะน่าเกลียดไปหน่อย

ภาพนี้ถ่ายจากระเบียงตึก พ่อมักจะมายืนพักตรงนี้หลังจากทานอาหารแล้ว มองไปเป็นนาดูแล้วสบายตา สบายใจดี


โถงที่เป็นห้องอาหาร ในรูปนี้เป็นวันปิด ก็เลยมีคนนอกเยอะ ในวันปกติที่ปฏิบัติก็จะเป็นอาหารมังสะวิรัติ ใส่ถาดหลุมบ้าง ก็โชคดีของพ่อหน่อยที่อยู่แค่ไม่กี่มื้อ เลยพอทน ส่วนอาหารว่าง หรือเครื่องดื่มเรียกว่ามีครบเลย



อาคารนี้เขาเรียกว่า “ศาลา” ชั้นบนจะเป็นโถงกว้างสำหรับการปฏิบัติ ส่วนชั้นล่างก็เป็นโถงกว้างเช่นกัน ขณะที่ไปเขาใช้เป็นห้องอาหาร รับผู้ปฏิบัติรวม 112 คน (ชาย22 หญิง 90คน) บริเวณโดยรอบก็ร่มรื่นดี








สถานที่นี้เรียกว่า ศูนย์2 อยู่ไกลมาก แต่ก็ดีเพราะใหม่มาก และกว้างขวาง ภาพนี้เป็นทางเข้าศูนย์








หลังจากที่คุณแม่ชักนำพ่อเข้าสู่วงการ ด้วยการจองคิวเข้าปฏิบัติธรรมที่ ยุวพุทธิกะสมาคม ไว้เป็นเดือนมาก่อนแล้ว จนมาถึงวันศุกร์ที่22ส.ค.ถึง24ส.ค.(3วัน 2คืน)ที่ผ่านมา พ่อก็เข้าปฏิบัติตามสัญญาด้วยความเต็มใจ





19 August 2008

เพื่อคุณภาพชีวิต

สัปดาห์ก่อนไปแถวจตุจักร ได้ซื้อหัวJET (ที่ต่อเข้ากับปั้มน้ำไดรโว่เพื่อทำให้เกิดฟองอากาศใต้น้ำ) แต่เพิ่งมีโอกาสประกอบเมื่อวันก่อนนี้เอง โดยใช้ข้อต่อ3ทางเข้ากับปั้มน้ำตัวเดียวกับที่ต้องปั้มเข้าถังกรองอยู่แล้ว ซึ่งได้ผลดีมาก หลังการติดตั้งเราก็ให้มีความรู้สึกดีและมีความสุขมาก ที่ได้ทำให้คุณภาพชีวิตเหล่าปลาดีขึ้น เพิ่มอ็อกซิเจนในน้ำมากขึ้น ทั้งทำให้เกิดกระแสน้ำหมุนเวียนดีขึ้น และให้ปลาได้ว่ายทวนน้ำเล่นเป็นที่สนุกสนานอีกด้วย

16 August 2008

อาหารลดน้ำหนัก

เมื่อวานนี้ (15ส.ค.)แม่ไปตรวจร่างกายมา พบว่ามีสิ่งปกติเล็กน้อยบริเวณตับ คือหลังจากอุลตร้าซาวน์แล้วพบเป็นรอยปื้นเล็กน้อยที่ตับ ซึ่งยังไม่อาจชี้ได้ชัดว่าเป็นอะไร เป็นไปได้ว่าไขมันนี้อาจกลายเป็นก้อนเนื้อได้ในอนาคต โดยจะต้องมาตรวจอีกครั้งใน3เดือนต่อไป พร้อมกับกำชับว่าจำเป็นอย่างมากที่จะต้องลดน้ำหนักตัวเอง แม่ก็เริ่มกังวลทันที สิ่งแรกที่ทำในเย็นนั้นก็คือไปหา “ท่านตา” ทันที ท่านตาก็ว่าไม่เป็นไร ให้เอายามาต้มน้ำดื่ม (ทายซิว่าแม่จะมีวินัยในการดื่มยานี้มั้ย) หลังจากนั้นพ่อก็ต้องคอยเตือนสติการกินของแม่ โดยบอกว่าให้กินได้อย่างเดิม แต่ให้กินแค่ครึ่งหนึ่งเท่านั้นนะ แต่ท่านผู้ชม...มื้อนี้แม่ขอไปกินBKK สเต็กแล้วก็แอบสั่งเจ้าจานนี้มากินทันที ต้องรีบเบรกให้กินแค่ครึ่งเดี่ยว...เฮ้อ..จะสำเร็จมั้ยนี่

แข่งรักบี้

16ส.ค. เมืองลงแข่งรักบี้ระหว่างชั้นปีในคณะสถาปัตย์ หลังจากที่ซ้อมมาทุกวันยันเที่ยงคืน เป็นกิจกรรมที่ดีมากเลย ไหนจะได้ออกกำลังกายจริงจัง ยังได้เพื่อนๆ รู้จักพี่ๆอีก นี่แหละคุ้มค่าที่สุด ส่วนจะกลับบ้านมืดๆนั้นไม่เป็นปัญหา เย็นวันนี้พ่อแม่ก็แอบไปดูแต่ไม่ได้ไปแสดงตัว เดี๋ยวเพื่อนๆจะล้อเอา ภาพนี้เป็นภาพที่ถ่ายระยะไกลโดยที่ยังไม่รู้เลยว่าเมืองอยู่ตรงไหน

พร้อมกันนี้ก็ได้ไปซื้อผลไม้เย็นๆกับลุงฟรุ๊ตด้วย ลุงก็ยังคงยิ้มแย้มแจ่มใสดังเช่นเมืองได้คุยไว้เลย

ทำบุญกับท่าน ว.วชิรเมธี

16ส.ค.หลังจากที่แม่ได้เชิญชวนเพื่อนๆญาติๆ ถวายพระไตรปิฎกสำหรับห้องสมุดในโครงการของท่าน ว. แล้ว แต่ก็ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่ฝากเงินมาทำบุญ(ผ่านมาทางป้าอ๋อย) พร้อมกับหนังสืออีกชุดหนึ่ง วันนี้แม่มีโอกาสไปที่สถาบันวิมุติเพื่อถวายเงินและหนังสือดังกล่าว แม่ได้สนทนากับท่าน ว. แล้ว ปรากฏว่าพระไตรปิฎกมีผู้บริจาคมากแล้ว การบริจาคปัจจัยเป็นเงินสดนี้ก็จะมีประโยชน์มากเพราะจะได้นำไปสมทบในกองทุนเพื่อจัดทำสื่อต่างๆเพื่อการเผยแพร่ได้อีกมาก ซึ่งแม่ก็ชื่นใจมาก

10 August 2008

รับปริญญา พลาย และแพรว

10 ส.ค. วันซ้อมใหญ่รับปริญญาที่ธรรมศาสตร์ ซึ่งปีนี้ พลายพล และแพรวตา ลูกลุงโปกับป้าเหมี่ยว ก็รับด้วย พ่อกับแม่ก็ไปร่วมแสดงความยินดี และก็อย่างเคยเราไม่รู้จะให้ของขวัญอะไร นอกจากไปถ่ายรูปซักช่วงหนึ่งเพื่อเอามาทำเป็นการ์ดให้เขา โชคดีอย่างหนึ่งว่า พลายก็หล่อ แพรวก็สวย รูปบัณฑิตก็เลยสวย สำหรับการ์ดที่เป็นกริดนี้ เมฆเมืองอาจเห็นว่า “อีกแล้วครับท่าน” แต่มันก็ได้ผลเสมอนะ มุกนี้ ขอแนะนำ

วันเดินทาง 9 ส.ค.51

อีกครั้งหนึ่งที่เมฆจะต้องเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ ต่างกันก็ตรงที่เที่ยวนี้ไปไกลถึงคนละซีกโลก ความรู้สึกจึงต่างไปจากการไปสิงคโปร์ (อาจเพราะรู้สึกว่าเราจะเดินทางไปมาเมื่อไหร่ก็ได้มั้ง ค่าตั๋วเครื่องบินก็ถูกมากมั้ง) ก็หวังแต่ว่าเมฆจะเดินทางโดยสวัสดิภาพ โปรดสังเกตกางเกงที่ใส่อยู่นั้น ผ่านการพิจารณาถกเกียงกันอยู่หลายตั้งเชียวกว่าจะได้กางเกงใส่สบายตัวนี้เพื่อขึ้นไปหลับสบายบนเครื่อง
การมาทานอาหารก่อนเดินทางที่สุวรรณภูมินี้ ดูจะยังไม่คุ้นเคยกับเราเท่ากับที่ดอนเมือง แต่เราก็ยังคุ้นเคยกับร้าน S&P และข้าวหน้าไก่ไข่ดาว ที่เมฆกับพ่อสั่ง ก็เป็นอีกมื้อหนึ่งที่มีความสุข โชคดีที่ไม่มีใครมาเข็นรถกระเป๋าของเราออกไป ไม่งั้นละก็...

ครอบครัวใหญ่

2ส.ค. ที่ผ่านมา เป็นวันที่เราไปไหว้อาม่าด้วยกัน ปีนี้ดีหน่อยเพราะมากันค่อนข้างจะครบ จะขาดก็ พี่ต้า ใหม่ ต๊อบ เท่านั้น เลยมาถ่ายรูปกันซะหน่อย
ก่อนที่เมฆจะเดินทาง คุณยายก็ได้โทรบอกคุณตาให้มาหากัน วันนี้ก็เลยออกไปกินข้าวกันที่เซฟ คุณตาอายุ86 เข้าไปแล้วแต่ก็ยังแข็งแรงมาก
เช้าวันที่ 9 ส.ค.
คุณตามาอีกครั้ง พร้อมกับน้าเดียร์ น้าก๋ง และดิว ด้วยการประสานงานของคุณยาย เราก็เลยได้มีโอกาสถ่ายภาพร่วมกันเป็ครอบครัวใหญ่(ฝั่งคุณแม่) จะขาดก็แต่น้าอู๋เท่านั้น วันนี้ถ้าการถ่ายภาพแล้วบันทึกเสียงไปพร้อมด้วย...คงสนุกดีเนอะ

การเริ่มต้นใหม่ (อีกครั้ง)


กลับมาอีกหน ตามที่ตกลงไว้ว่าเราจะทำblogของตัวเองเอาไว้แบ่งกันดู แบ่งกันเข้าใจความเป็นไปของแต่ละคน แม้ระยะทางจะไกลคนละซีกโลก หรืออยู่ในกรุงเทพด้วยกัน เราก็ต่างเผชิญเรื่องต่างๆ ที่แตกต่างกันไป หวังว่าblogนี้ยังคงจะทำหน้าที่ที่เคยทำมาแล้วตอนเมืองอยู่อิตาลี่ เมฆอยู่สิงคโปร์ พ่อแม่อยู่กรุงเทพ แต่เราก็ไม่รู้สึกห่างเหินกันเลย กลับรู้สึกเหมือนนั่งกินข้าวคุยกันที่บ้านเลย
ภาพนี้ไม่มีความหมายอะไรเป็นพิเศษนะ เป็นวันที่เราไปวัดนาป่าพงกัน แต่เห็นสวยดี