28 December 2006

พี่เมฆกลับบ้าน


เช้านี้หลังจากเอาของสวัสดีปีใหม่ อ.สุกรีแล้ว ก็มาทานก๋วยเตี๋ยวแม่กัน

ช่วงเวลาที่มีความหมายที่สุดของแม่ คือลูกกลับมาบ้าน จริงๆแล้วกลับมาคนหนึ่งยังดีกว่าไม่มีใคร แต่ถ้ากลับมาพร้อมกันทั้งสองคนย่อมดีที่สุด

25 December 2006

painting2

ตามคำเรียกร้องครับ ไม่ว่าเมืองจะชอบจริง หรือแค่เอาใจพ่อ ก็จะเอาให้ดูอีกรูปหนึ่ง มุมนี้ปรกติเราจะไม่ค่อยเลือเขียนหรอก เพราะพื้นทรายข้าหน้ามันว่างๆชอบกล แต่เขาก็เลือที่จะเขียน โดนเอารายละเอียดไปไว้ข้างหลังแทน เก๋ไปอีกแบบ
สีดิบ คือการใช้สีที่บีบออกมาจากหลอดโดยตรง ไม่ผสมกับสีอื่นใด ถามว่ารู้ได้อย่างไร ก็ต้องตอบว่าเพราะความชำนาญ ส่วนสีเบรคคือสีที่เจือสีตรงข้ามของมัน (ในวงจรสี)เช่นสีเขียวเราก็จะเจือสีแดงลงไปเล็กน้อย สีน้ำเงินเราก็จะเจือสีส้มลงไปนิดหน่อย ถามว่าแดงไหนล่ะ มากหรือน้อยแค่ไหน ก็ต้องตอบว่าความชำนาญเท่านั้นที่จะตอบได้ ไม่มีสูตรสำเร็จ มันเป็นรสนิยมด้วย
พื้นทรายระยะหน้าสุด ถ้าปกติเราก็จะมองเห็นเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ เรียบๆ แต่สำหรับpaintingแล้วฝีแปรงคือรสชาติของสายตา คนดูจะอิ่มตาเมื่อเขามองเห็นท่าทีของฝีแปรงของผู้เขียนเคลื่อนไหวอย่างสนุกสนาน คนดูจะมองเห็นท่าทีของผู้เขียนในขณะนั้นได้ บางทีตาเห็นเท่านี้ เราก็เอาอารมณ์เข้าไปเพิ่มได้ บนพื้นที่ว่างๆนี้จึงมีเรื่องราวเกิดขึ้น
มุมหนึ่งที่ซ่อนไว้ข้างหลัง แม้แต่สีเขียวที่สดใสนี้ก็มีการเบรคสีนะ สีนั้นจึงไม่โดดออกมาทิ่มตาเรา การคุมโทนนี้อธิบายยากหน่อยคล้ายๆกับจับสีให้มันยึดต่อกันไม่ให้มันเสร่ออกมาแทงตาเรา การเบรคจึงเป็นวิธีหนึ่งที่ให้มันสงบเสงี่ยมพร้อมใจกัน

art exhibition

มุมหนึ่งของนิทรรศการ กรอบรูปสำคัญนะว่าเลือกแบบไหนที่จะส่งเสริมงาน หรือการมีลูกเล่นเล็กๆน้อย บนพื้นขาวด้านล่างที่ตั้งใจเว้นไว้อย่างท้าทายความถูกต้อง
รูปนี้พ่อชอบนะ ภาพถ่ายอาจแสดงอาการกระเพื่อมของน้ำทะเลไม่ได้อย่างภาพเขียนนะ เวลาดูแล้วเหมือนกับน้ำทะเลมันจะกระฉอกออกมา เรือก็แคว่งไปมา พาลจะเมาคลื่นเอาได้ นี่คืออำนาจของฝีแปรง ทีภู่กันที่ป้ายลงไปที่ถูกจังหวะ

รูปชุดนี้อาจเป็นตัวอย่างหนึ่งในการจัดการกับภาพถ่ายที่เป็นต้นฉบับ กับภาพpainting เขาไม่เสนอความจริงทั้งหมด ส่วนพื้น หรือฟ้าเขาทำเป็นสีเรียบสองมิติ ไม่ได้แสดงให้เป็นท้องฟ้าที่เป็นอากาศ ก็น่าสนใจอยู่ ว่าทำไมไม่เขียนให้เป็นระบบความคิดเดียวกัน เพราะถ้าทำอย่างนั้นเขาก็มีเพียงฝีมือแค่เขียนให้เหมือนภาพถ่ายเท่านั้นสิ ความคิดจะอยู่ที่ไหนล่ะ ถ้างั้นก็ไปดูภาพถ่ายสิ
ภาพที่แสดง ลองคลิ๊กขึ้นมาดูภาพใหญ่น่าจะได้นะ

24 December 2006

น้องหมา

น้องหมาทั้งสองออกมาต้อนรับแม่อย่างตื่นเต้นยิ่ง สวัดดีครับพีเมฆ สวัสดีค่ะน้องเมือง

ของปีใหม่

อีกชิ้นที่เป็นของปีใหม่ที่จะให้ป้าหมอ เพราะอัศดามงคล รากคำหมายถึง ม้า คนจีนจะมาจากแซ่เบ้ แม่จึงเลือกตัวม้า ตัวนี้ไม่ใช่ของแพงนะ เพราะวัสดุไม่ใช่โลหะ คุณภาพของผิวจึงไม่ราบเรียบพอ แต่ไม่เป็นไร ของขวัญใช่ว่าจะต้องมีราคา เราดูที่น้ำใจ เพราะเขารวยกว่าเราเยอะ จนเงินซื้อได้ทุกอย่าง พ่อจึงให้ความสำคัญกับแพคเกจ เพราะเราเชื่อว่ามันจะสะท้อนถึงความตั้งใจของเราในฐานะผู้ให้ เวลาที่ทำก็สบายใจนะ มีความสุขด้วย

painting

วันนี้ไปดูนิทรรศการศิลปะมา เป็นรุ่นน้องของพ่อ ก็ไม่ใช่ศิลปินดังอะไร แต่พ่อเห็นว่าคนนี้มีทักษะที่ดีมากคนหนึ่ง ภาพทั้งหมด(ในนิทรรศการ) น่าจะเขียนจากภาพถ่าย ดูแล้วก็มีฟิลลิ่งภาพถ่ายอยู่ แต่ประเด็นที่เอามาดูคือ การแปลภาพถ่ายมาเป็นpainting ไม่ง่ายนะ ลองดูเอาเป็นตัวอย่างภาพหนึ่งก่อน



ภายขยายรายละเอียดของภาพเดียวกัน แสดงให้เห็นถึงการแปลภาพที่มาจากภาพถ่าย มาสู่ปลายภู่กัน อันนี้จำเป็นมากสำหรับpainter การใช้สีถ้าสังเกตดูแล้วจะเห็นว่า ทุกสีเบรค จึงคุมโทน อยากให้เมืองได้เห็นเทคนิคการใช้ใช้ภู่กัน อะไรลงก่อน ทีแปรงไหนลงหลัง ลองดู

23 December 2006

แบ็งค์ และแพร์

แบ็งค์ และแพร์ก็มาเป็นแขกประจำที่มาเยี่ยมน้องหมาทั้งสอง เห็นขนมอยู่ในมือ คุณyahooก็ไม่วางตาเลย แสดงความน่ารักเต็มที่ คุณgooge ก็ใช่ย่อย ขอมือก็ให้มือ ดูแบ็งค์ กับแพร์ ก็เอ็นดูน้องทั้งสองนะ ว่างก็มาเยี่ยม ดีครับผมไม่เหงา แถมมีขนมกินด้วย

21 December 2006

ของปีใหม่

ใกล้ถึงวันปีใหม่แล้ว เราก็จะต้องหาอะไรพิเศษเล็กๆน้อยให้กับเพื่อน ปกติเราก็ไม่ได้หาของแพงหรอก เพราะราคานั้นไม่เท่าความตั้งใจของเราหรอก เราแสดงออกอย่างไรหรือ ก็ความใส่ใจในทุกรายละเอียดของการออกแบบไง แม่เป็นคนออกไอเดียเรื่องส้ม และกล่องบรรจุ พ่อเป็นเพียงคนออกแบบกราฟิคเท่านั้น ก็ดีไซน์เดิมๆทีคุ้นตาแหละ ฉลากทำทั้งด้านนอกและด้านในคำบรรยายโดยพ่อเอง ส่งมาให้อ่านเล่น
ด้านนอก
ส้มจิ๋ว แต่โคตรอร่อยเลย มีชาติกำเนิดที่เมืองจีน หรือทีไหนก็ไม่สนใจ รู้แต่ว่า เวลากินก็อร่อยดี เวลาขี้ก็สะดวกใจ ผิวพรรณก็ผุดผ่องแจ่มใส สุขภาพแข็งแรงว่องไว ประกอบกิจร่ำรวยมั่นใจ แม้จะใบเล็กเหมาะมือ ก็ไม่ควรปาใส่คู่ที่เราทะเลาะด้วย เพราะมันจะเลอะเทอะ ขอแนะนำ ให้ใช้นาฬิกาปลุกปาแทน มันถึงจะสะใจ..ซี๊..ด..
ด้านใน
สลากนี้มีค่าสะสมครบ
15 ใบ แลก สบู่นกแก้ว 2 ก้อน
133 ใบ แลก กล่องดินสอแม่เหล็ก 4 กล่อง
2,459 ใบ แลก กางเกงในจีสติงลูกไม้ดำ พร้อมแส้ 1 set ซี๊ด..ซ.
47,880 ใบ แลก คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค(มือ2) 1 เครื่อง
867,665 ใบ แลก ดินเนอร์กับพระเอกเกาหลี ที่เกาะเชจู
9,750,002 ใบ แลก คอนโดหรูที่หัวหิน หรือรถฮอนด้าแจ๊ส 5 คัน
ช้าหมด อดเป็นเจ้าของ is song hit เล่มใหม่ หน้าปก “แอ๊กเนสชาน”

20 December 2006

งานเลี้ยงวันเกิดอากง

ก่อนที่แขกจะมากัน ลูกๆหลานๆก็มาถ่ายรูปร่วมกันก่อน สำหรับคนแก่แล้ว คงไม่มีอะไรชื่นใจไปกว่าได้เห็นลูกๆหลานๆมารวมกันอย่างงี้ วันนี้ ซาเจ็ก ไม่อยู่ด้วย ใครๆก็ถามถึง เมฆกับเมืองนะ ว่าสบายดีอยู่หรือเปล่า เมื่อไรจะกลับ...
บรรยากาศรวมๆที่ ส.บ.ล. มีจัดกันรวม ๖ โต๊ะ โดยประมาณก็โต๊ะละหมื่นบาท งานนี้ก็ปาเข้าไป หกหมื่นกว่าบาทเข้าไปแล้ว แต่ก็เป็นความสุขของเจ้าของงานนะ เงินเขาหามานี่ เขาก็มีสิทธิ์ใช้

บ้านคุณไทวิจิต

พ่อไปบ้านที่ลุงมอร์ไซด์กำลังสร้างอญุ่ที่เชียงใหม่ นี่กระมังศิลปินเวลาคิดอะไรมันก็เป็นศิลปะไปหมด อยู่อย่างนี้มันถึงจะภูมิใจ ออกจากที่นี่แล้วจะไปต่อที่สตูดิโอ โชว์รูมของเขาอีกที่ แต่ยังทำรูปไม่เสร็จ แล้วจะส่งตามมาให้ดูภายหลัง

19 December 2006

เดินทางกลับกรุงเทพ


ให้ดูภาพรวมๆของขบวนรถภายใน ให้นึกถึงชิงกันเซนมั้ยล่ะเนี่ย ทำไมน้าเขาไม่ปรับปรุงให้มันดีหน่อย การเดินทางโดยรถไฟนี่นับว่าปลอดภัยที่สุดก็ว่าได้นะ โรแมนติกด้วย

รถไฟตู้นอนเต็มทุกขบวน จึงต้องเป็นนั่งไป เขาเรียนรถสปริ้นเตอร์ แต่ก็นั้นก็ดังนะ แต่เดี๋ยวนี้ เก่าชิบหายเลย ก็ต้องยอม นั่งมาก็หลับสบายนะ สบายกว่ารถทัวร์เยอร์ มันเหมือนมียานอนหลับอย่างที่ลูกบอกเลย สั่นไหวชึกชักเล็กน้อยชวนหลับดีจริงๆ ในภาพนี้เป็นตอนเช้าแล้ว แม่กำลังเก็บผ้าห่มอยู่ รวมเวลา 12 ชั่วโมง ถ้าเป็นเครื่องบินก็ถึงอิตาลีแล้วมั้ง

เชียงใหม่ (ต่อ)


วันรุ่งขึ้นออกไปทานข้าวเช้าด้วยกัน ใกล้ๆทางจะไปสวนสัตว์ สงสัยเป็นแผนของแม่อีกที่จะให้พ่อเลยตามเลยเข้าไปด้วย แต่พ่อไม่ยอม บังเอิญว่าลุงมอร์ไซด์เขาก็เพิ่งขึ้นมาธุระ พ่อก็เลขอแยกตัวไป ส่วนยายตอนแรกก็จะไม่ยอมไปดูเจ้าแพนด้า กลัวเสียตังค์ แต่แม่ก็จับเข้าไปจนได้ ปรากฎว่าผู้สูงอายุเข้าฟรี ก็เลยสบายใจ ดูทั้งแพนด้า และหมีโคอาล่าที่เพิ่งเข้ามาใหม่

ดู้ดูสิ แม่เค้าทำกับยายได้ขนาดนี้เชียว ยายก็เอาด้วยนี่สิ... พออกจากสวนสัตว์ก็ไม่รอช้าไปลุยตลาดวโรรส ตลาดในฝันเชียว อยู่อย่างนานเลยจนบ่ายจึงกลับเข้าโรงแรม พักเล็น้อย ก่อนไปเดินตลาดไนท์บาร์ซ่า ส่วนพ่อก็ไปนั่งอ่านหนังสือในร้านแม็คโดนัลล์ 2 ช.ม. สบายใจ จนถึงเวลาจึงไปสถานีรถไป เที่ยว 3 ทุ่ม

17 December 2006

เชียงใหม่


เสร็จจากตลาดคำเที่ยงแล้ว ก็มาส่งพ่อที่โรงแรม “ทำไปเลยนะคอมพิวเตอร์นี่ อย่าหยุดนะ” แม่กระแนะกระแหนพ่อ ก่อนที่จะนั่งสองแถวแดง ไปถนนคนเดิน บัวลายต่อทันที คอยดูแม่ลูกนะ ใครจะมีใจแน่วแน่กว่ากัน…เฮ้อ กูนอนดีกว่า

กลับจากงานพืชสวน เข้าโรงแรมครู่หนึ่งก็ตะลุยต่อทันที ไปตลาดคำเที่ยง เป็นตลาดต้นไม้ ที่พ่ออาสาพาแม่ไปดู ต้นไม่ที่นี่เขาจัดให้ดูด้วยให้เห็นเป็นสวนที่บ้านเลย (เขาไม่ให้ถ่ายรูป) แม่เห็นแล้วก็ชอบ อีกไม่นานคุณจะเห็นต้นไม้ที่บ้านพรึบอีกครั้งหนึ่ง

มาพักที่โรงแรมโนโวเทล เพราะหลายๆที่ก็จะเต็มกัน แล้วเราก็ขี้เกียจหาซะด้วย ชื่อนี้คุ้นดีก็เลยเอา ห้องก็ดีนะกว้างดี


ทันที่ทีรถไฟถึง ประมาณ ๘โมงเช้า ก็ไปลุยเลยที่งานพืชสวนโลก พ่อนั้นตกลงกับแม่ไว้ก่อนแล้ว ว่าจะไม่ไปด้วยเด็ดขาด ตามแผนเดิมจะไปตอนเย็น เพราะกลัวร้อน แต่เช้านี้อากาศเย็นแล้วจึงเปลี่ยนแผนกระทันหัน คุณยายก็เลยไปกับแม่สองคน ดูจากสีหน้าคุณยายแล้ว คงร้อนพอประมาณว่ะ ส่วนพ่อขอตัวมาเข้าโรงแรมก่อนดีกว่า

เริ่มเดินทางตอน ๖ โมงเย็น ที่นั่งนี้จะเลื่อนออกมาเพื่อเป็นเตียงนอน ลูกๆก็เคยนอนมาแล้วล่ะ แต่พอรถเริ่มออกคุณยายก็สั่งให้เจ้าหน้าที่มาปูเตียงซะแล้ว (แต่ยังไม่นอนนะ) เหมือนใครน้า ที่ต้องมีอะไรซะหน่อย พิเศษหน่อย ก็เลยไม่ได้กางโต๊ะเพื่อจะทานอะไรกันตามแผนเลย

พ่อ แม่ กับคุณยายกำลังจะไปเชียงใหม่ เป้าของคุณยายคือไปดูงานพืชสวนโลก การเดินทางเราเลือกที่จะนั่งรถไปตู้นอน เพราะบรรยากาศดี นั่งทานอะไรบนรถก็ได้ แต่ก็อย่างว่าละนะ รถไฟไทย มันช่างไม่มีการปรับปรุงเอาซะเลย ค่อนข้างจะสกปรกไปซะหน่อย

14 December 2006

หลวงตาบัว


อาจเป็นภาพที่ลูกเจนตา คุณยายชวนพ่อแม่มาอีกครั้ง ก็ดีนะ พ่อแม่เองก็รู้สึกอยากใส่บาตรเหมือนกันนะ ไม่ได้ฝืนเหมือนเดิมแล้ว โลกนั้นกว้างกว่าที่เรานึกถึงเยอะ

น้องหมา


น้องหมาทั้งสองจะถูกกักบริเวณเมื่อกินข้าวทั้งเช้าและเย็น เพื่อจำกัดที่ให้อึซะให้เสร็จที่สนามนั่นแหละ แล้วก็จะนั่งรอเวลาปล่อยมาอีกครั้ง

พี่ต้าบวช


พี่ต้าบวชพระเมื่อตอนต้นเดือนที่วัดในจังหวัดพิจิตร พระที่นี่เป็นสายทางพระป่า ฉันท์อาหารมื้อเดียวในบาตร ภาพนี้ถ่ายวันที่มากรุงเทพ เป็นบ้านของอาจารย์ที่บวชด้วยกัน หลวงพีต้านั่งที่สองจากซ้าย อาจารย์ท่านนี้กับพระเจ้าอาวาสที่มาด้วยกัน มีลูกศิาย์เยอะจึงมาถวายอาหาร เหมือนกับตักบาตรแหละ จะเวียนให้พระแต่ละรูปตักลงในบาตรรวมกัน

the art exhibition


บอร์ดหลักบริเวณทางเข้านิทรรศการ

ด้านหลังของบอร์ดทางเข้า ดูสติ๊กเกอร์เป็นรอยเม็ดๆเยอะก็ต้องทำใจหน่อย เพราะจะประหยัด ด้านในเป็นแท่นคีออสตั้งคอมพิวเตอร์ ที่ทำแบบให้พีแดงทำที่เคยส่งให้ดู

ห้องนี้เรียกว่า digital zone จอภาพด้านซ้ายเรียกว่าเป็นนิทรรศการเสมือนจริง บังคับโดยจอยสติ๊ก ด้วยจอภาพขนากใหญ่จึงเหมือนกับว่าเราเดินเข้าไปในห้องได้จริงๆ ส่วนด้านขวาเป็น e-book ดูสูจิบัตรจากคอมเปิดเป็นหน้าๆได้เหมือนกับหนังจริงๆ

แม่กับพีเมฆมาที่นิทรรศการ แต่วันนี้ต้องเร่งไปอีกงานหนึ่งจึงมีเวลาน้อยหน่อย มายืนข้างๆงานของพ่อเอง

เปิดให้ดูงานกราฟิคของหนังสือหน่อย ภาพผลงานถูจัดเรียงให้เหมือนกับเราดูนิทรรศการในหนังสือ ตรงกลางหน้ามีตัวคนเอาไว้เปรียบเทียบเสกลคนด้วย ไอเดียพ่อเอง กล่องตั้งข้างหลังเป็นกล่องซีดีแผ่นคู่

08 December 2006

volvo


โบราณว่า เก่าๆมันเป็นสนิม ใหม่ๆหน้าตาจุ๋มจิ๋ม จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ดันมาเปรียบเทียบกันอย่างนี้ก็แย่สิ เราเริ่มบอกขายคันเก่าแล้ว แต่ต้องรอสลับป้ายทะเบียนนี้ก่อน ไม่น่าเชื่อนะว่าป้ายนี้มีราคาเป็นแสนบาทเชียวแหละ สังเกตุที่พื้นโรงรถมีร่องรอยของการพ่นสีคีออส ฝีมือพี่แดงค้างอยู่ ไม่เฉพาะที่พื้นนะ ละอองสีนี้ยังปลิวไปทั่ว รวมทั้งรถที่จอดอยู่นอกบ้านด้วย

setup นิทรรศการ และ ปันปัน


อาหารโปรดของทุกๆคน (ยกเว้นพ่อ) แต่พ่อก็ไปนั่งคุยด้วยมีใครบ้างก็ดูในรูป ลุงหวัด ป้าอ๋อยกำลังตามมา ส่วนลุงต้องหลุดกล้องออกไป วันนี้วันที่ 5 ธันวาแทบทุกคนจะใส่เสื้อเหลือง คนที่ลืมใส่จะรู้สึกแปลๆนิดหน่อย

ผลงานในนิทรรศการนี้มีมูลค่ามากกว่าสองร้อยล้านบาท งานของพ่อก็อยู่ในนิทรรศการนี้ด้วย ไม่ใช่เพราะเล่นเส้นนะ พ่อไม่ใช่คนคุมการsetupเองจึงปลีกตัวไปปันปันกับแม่ได้

พิธีเปิดนิทรรศการ


เมื่อผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าภาพถวายรายงานเสร็จก็เป็นหน้าที่ของพ่อที่จะต้องยกโต๊ะเพื่อลงพระนามสำหรับการเปิดครั้งนี้ เชื่อว่าทุกคนลุ้นเอาใจช่วยพ่ออย่างมาก ไม่ให้เดินสะดุด แต่สุดท้ายก็จบลงด้วยความเรียบร้อย ทุกคนโล่งอก


ก่อนพิ๊จะเริ่มจะมีการเตรียมกันซักซ้อมกันหลายขั้นตอน พลเรือตรี มล.อัศนี ปราโมช ประานมูลนิธิของพ่อ กำลังสอบถามถึงลำดับพิธีการอยู่


นีครับนักดนตรีคลาสิคที่น่าเป็นที่จับตามอง(เว่อเกินมั้ยนี่)ต๊อป วิน เมฆ แล้วก็ปาล์ม มาช่วยพ่อในพิธีเปิดนี้ แต่ด้วยพิธีการต่างๆทำให้ไม่มีโอกาสได้แสดงอย่างเต็มที่ ทั้งยังต้องรีบกลับไปซ้อมใหญ่กับคอนเสิร์ตแมสซายญ่าอีก ขอบคุณทั้งลูกและแม่นะครับ(ที่ช่วยผลักดัน)

28 November 2006

สาวก Lacoste

วันนี้พ่อไปพบเคาท์เตอร์ลดราคา ไอ้จรเข้นี่ เห็นแม่บ้าคนเดียวยังไม่พอ แม่บอกลูกๆก็อยากได้รองเท้าเหมือนกัน พ่อก็เลยซื้อมา ใครอยากได้ยกมือขึ้นด่วน ถ้าอยากได้ทั้งสองคนจะได้ไปซื้ออีกคู่ แต่ถ้าไม่มีคนอยากได้ พ่อก็จำใจรับไว้เอง 5555 ขอบคุณครับ

26 November 2006

ทำบุญ ฟังธรรม

ณ สวนสันติธรรม จังหวัดชลบุรี ทางไปสะดวกมากขับรถไปทางมอเตอร์เวย์ไปถึงใกล้ๆเขาเขียวก็ถึงแล้ว ไม่เกิน2ชั่วโมง เราไปถึง 7โมงเช้าพอดี อากาศก็ดีด้วย ที่นี่มีหลวงพ่อปราโมทย์ สอนธรรมะให้ผู้มาฟังธรรม เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่เน้นไปทางเรียบง่ายไม่มีหลักการยุ่งยาก มุ่งไปที่แก่นธรรมเท่านั้น ถ้าลูกๆกลับมาจะพาไปพัง
ทุกๆคนจะนำอาหารมาเพื่อถวยพระ ก็เหมือนตักบาตรนั่นแหละ จัดใส่ถาดแล้วก็จะลำเลียงขึ้นไป ที่ไปด้วยกันมีตั่วโกว ป้าตุ่ม พี่พลอย แล้วก็พ่อแม่