25 October 2009

Luminox for papa

พ่อซื้อนาฬิกาเรือนใหม่ให้ตัวเอง (ในราคาเท่ากับ iPhone ของแม่) แม่บอกว่ามันหนักมากนะ เหมือนยกน้ำหนักเลย แต่คนอยากได้ก็บอกว่า ไม่เป็นไร รุ่นนี้เป็นรุ่น Limited Edition ผลิตมา 500 เรือน ก็ไม่มีความหมายอะไรหรอก เพราะผมชอบ Cronograph เท่านั้นเอง

iPhone for Mama

เพราะโทรศัพท์เก่าที่แม่ใช้อยู่นั้นเก่าเหลือเกิน พ่อก็เลยจัด iPhone 3Gs ใหม่ล่าสุดมาให้แม่ หวังว่าเป็นเครื่องช่วยให้แม่สะดวกขึ้น และเป็นการฝึกฝนให้ตัวเองให้ทันไฮเทคบ้าง โดยพ่อเอาบทสวดมนต์มาใส่ใน ipod ในContactก็ใส่รูปภาพให้ด้วย ดูอุณหภูมิที่pittsburgh ...ฯลฯมาล่อให้เธอสนใจ และใช้ประโยชน์ได้มากขึ้นในวันหนึ่ง

Photo Diary

แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่ค่อยมีใครสนใจ ทั้งแม่และเมือง ก็เปิดดูผ่านๆ อาจเพราะเหตุการณ์เพิ่งผ่านไปไม่นาน พ่อเริ่มทำตั้งแต่ปี 2004 (ปีที่เมฆไปเรียนสิงคโปร์) จนถึงปี 2008 และกำลังทำย้อนหลังจากปี 2003ลงไปเรื่อยๆต่อไป แม้ว่าแม่จะรู้สึกว่าพ่อหมกมุ่นมากไปก็ตาม
ตัวอย่างภายในเล่ม เพราะเรื่องหลายๆเรื่องพ่อก็ถ่ายไว้ แต่ก็ไม่เคยพิมพ์ออกมาดู ครั้งนี้หลายๆรูปเราก็ไม่เคยเห็น และหลายรูปเราก็เจนตา
หน้าปกของแต่ละเล่มๆละ 1ปี โดยใช้ภาพเป็นตัวเล่าเรื่องตามลำดับเป็นแต่ละเดือนไป
ใส่ในแฟ้มขนาดA3ซึ่งใหญ่สะใจมาก แต่ก็หนักมากเช่นกัน
จากที่ทำอัลบั้มเกาหลี และต่อด้วยญี่ปุ่น ก็พบว่าเวลาเราดูแล้วก็สนุกดี เป็นเรื่องที่ดีมากที่เราจะระลึกถึงความสุข พ่อก็เลยค้นรูปเก่าๆขึ้นมาทำเป็นอัลบั้มใหม่ ให้ชื่อว่า Photo Diary (ภาพถ่ายบันทึก) ซึ่งพ่อรู้สึกนะ ว่าภูมิใจที่ได้ทำมัน แม้จะใช้เวลาพอสมควรเชียว และเชื่อว่าผลที่ได้มันคุ้มค่าที่สุด

พีธีบวช

เมื่อเสร็จพิธีก็มีการทำบุญกับพระใหม่ ก่อนขึ้นกุฏิ ซึ่งดีมาก ใหม่ สะอาดมาก
และก็เป็นพระ เป็นเรื่องนี่เกิดขึ้นไม่ง่ายนัก ที่จะได้เห็นพ่อลูกบวชพร้อมๆกัน
ขณะนี้ก็เป็นนาคแล้วทั้งคู่
ลานที่ทำพิธีโกนผม
ก็เป็นพิธีที่ซาบซึ้งอีกตอน ก็คือการขอขมาต่อพ่อแม่ และล้างเท้าให้พ่อแม่ด้วย
คุณตาโกนเสร็จก่อน แล้วมาถึงคิวน้าอู๋
พ่อ แม่จะเป็นคนตัดผมปอยแรก โดยมีดิวทำหน้าที่อย่างแข้งขัน ส่วนคุณตาเป็นผู้อาวุโสแล้ว ไม่ต้องมีใครมาตัดให้ พระก็โกนได้ทันที
น้าอู๋ และคุณตา ตกลงใจจะบวชที่วัดปุรณาวาส (ใก้ลกับม.มหิดล) ทีแรกก็ไม่นึกจะเป็นวัดใหญ่ ไม่นึกจะต้องมีแขก แต่สุดท้ายก็มีคนราว 60คนได้
เป็นงานบวชที่มีช่างภาพหลายคน(มากกว่าในรูปนี้อีก)ในภาพ ผู้หญิงกระโปรงเทาที่นั่งติดกับแม่ เป็นแฟนของน้าอู๋

การออกแบบปรับปรุงบ้านป้าหมอ เรือนหอพีหมู

ทุกๆอย่างเป็นของดีเกือบทั้งนั้น การรื้อก็เสียดายอยู่ แต่ก็จำเป็นเพราะเราจะทำให้เขาเหมือนมีบ้านใหม่เลย

ก็เลย(ว่าจ้าง)ขอให้เมืองและเพื่อนมาช่วยวัดพื้นที่ และทำแบบแปลนขึ้นมาก่อน แล้วคงต้องทำเป็น 3 D ต่อไป

เนื่องจากพี่หมูจะแต่งงานในช่วงต้นไปหน้า ก็ชวนให้พ่อแม่ช่วยปรับปรุงบ้านเพื่อเป็นเรือนหอ หลังจากได้คุยเบื้องต้นแล้ว คงจะมีการรื้อผนังออกเกือบทั้งหมด ตามสไตล์พ่อ ซึ่งคงใช้งบประมาณ มากกว่า สองล้านแน่เลย

งานทียังดำเนินอยู่

เช้าวันศุกร์ หรือเสาร์อาทิตย์แม่ต้องออกไปหาวัสดุ เช่นกอกไม้แห้ง ตะกร้า กระดาษสา กล่อง….ฯลฯ จากจตุจักร สำเพ็ง ฯลฯ เพื่อใช้ในการตกแต่ง บรรจุห่อของขวัญ เพื่อการนำเสนอที่สวย

กว่าจะได้เป็นของแต่ละชิ้น แต่ละอันสำหรับงานของแม่นั้นมีเรื่องสลับซับซ้อนมากเกินกว่าเราจะคิดถึงในตอนแรก การออกแบบให้โดนใจลูกค้า ต้องคำนึงถึงวัสดุจริง การทำตัวอย่าง งบประมาณ ผู้ผลิต เวลา การประสานงาน ...ฯลฯ และผู้ตัดสินใจสุดท้ายก็ไม่ใช่เรา ก็เป็นเหตุให้พ่อแม่ต้องมีปากเสียงกันเหมือนกัน เพราะเราแทบไม่มีเวลาส่วนตัวกันเลย ไม่ได้ไปหัวหิน ตื่นขึ้นมาก็ก็ต้องพูดแต่เรื่องงาน ๆๆ

06 October 2009

งานๆๆเข้า

งานภูฟ้ายังไม่ทันเสร็จ งานทำการ์ดปีใหม่ ทำไดอารี่ ทำกระเช้าของขวัญของป้าสา ก็เข้ามาอีก ในภาพนี้แม่กำลังจัดของที่ซื้อมาจากร้านศิลปาชีพ จัดลงตะกร้าผ้ากระสอบ(ซื้อจากมูจิ ญี่ปุ่น)เพื่อเป็นต้นแบบให้ดู ซึ่งแตกต่างจากกระเช้าในซุปเปอร์มาร์เกตทั่วไป
เมื่อหลายปีก่อนโน้น แม่กับป้าจันก็เคยจัดกระเช้านะ แม่ก็เหนื่อยอีกแล้ว แต่ก็ยังสนุกกับการไปหาของ ไปหาร้านรับตัดกระเป๋า หาผ้ากระสอบเอง ฯลฯ จนงาน และสมองสับสนไปหมดแล้ว

04 October 2009

กลับมาแล้วก็รู้สึกดีด้วย คุณประภาสก็ไปดูด้วย(พี่ก้องบอกว่ามาดูทุกรอบแหละ เพื่อเอาไปปรับปรุงในรอบต่อไป .. มืออาชีพจริงๆ) ภาพนี้ถ่ายก่อนเข้าชม

ยังคิดอยู่ว่าต่อไปเราน่าจะปรับพฤติกรรมความขี้เกียจของพวกเรา ฟอร์มจัด หรือเสียดายเงินด้วย ไปดูการแสดงต่างๆให้บ่อยขึ้น ประสบการณ์เหล่านี้มันตีเป็นเงินไม่ได้ หลายๆสิ่งจะเข้าไปอยู่ในเมมโมรี่ของเราโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะเมืองนะ ความรู้ทางสถาปัตย์และความรู้เกี่ยวเนื่องอยู่ในละคอนค่อนข้างมาก การออกแบบฉาก การเปลี่ยนฉาก แสงกับอารมณ์ เวลาและมุกต่างๆ…ฯลฯ

พี่ก้องมีบัตรฟรีของละคอน “เร่ขายฝัน the musical” เราก็เลยได้ไปดู (เฉพาะพ่อกับแม่ เมืองไม่ว่าง) ทั้งๆที่ไม่ได้ตั้งใจจะไปดูเลย เพราะสำหรับพ่อคิดว่าเดี๋ยวเสียฟอร์ม จะไปดูAF ไอ้เรามันต้องของนอก ส่วนแม่นั้นเสียดายเงิน (บัตรขั้นต่ำประมาณ 800) แต่พอไปดูแล้วก็ดีนะ เราชอบเพลงเป็นทุนอยู่แล้ว แม้ละคอนจะยาว ประมาณ3.5ชั่วโมง ก็ไม่รู้สึกเบื่อ การได้ไปดูละคอนสดๆนั้นมีรสชาดดีกว่าดูจาก ทีวีแน่นอนที่สุด อย่างเปรียบกันไม่ได้ (อันที่จริงไม่ใช่แค่ละคอนหรอก คอนเสิร์ต หรือการแสดงอื่นๆด้วย)

IVY Condo ห้องในฝัน

มุมองจากคลับเฮาส์
ชั้นล่างของโครงการที่การก่อสร้างเกือบจะแล้วเสร็จ
ภาพจากโมเดล ชั้น 10ซึงเป็นแค่ห้องในฝันเท่านั้น

พ่อกับแม่ใช้เวลาในการดูคอนโดพอสมควร แม่จะชอบ ส่วนพ่อชอบคอยมากกว่า แต่ที่นี่ IVY Condo ริมเจ้าพระยา บังเอิญมีห้องบอกขาย ตำแหน่งที่น่าจะดีที่สุด คือริมน้ำ เป็นหัวมุมทิศดีรับลม แต่บอกขายในราคา 4.5 ล้าน ซึ่งไม่แพงหรอก แต่สูงเกินไปสำหรับเรา

ครูเมืองจากอิตาลี

อาลี (พ่อเรียกให้ง่ายๆ) เป็นครูที่สอนภาษาอิตาเลียนให้กับกลุ่ม AFSที่มาจากประเทศต่างๆ สอนในระยะแรกๆเท่านั้น เมืองเองก็ไม่ได้สนิทมากนัก ขณะนี้ทำงานอยู่ที่ซิดนีย์ จะแวะมาเที่ยวเมืองไทย เราก็เลยชวนมานอนที่บ้านเราก็ได้

เขามาอยู่กรุงเทพ 3คืน แล้วก็จะไปภูเก็ต 5คืน ก่อนจะมาอยู่บ้านเราอีก 2-3คืนแล้วก็จะกลับอิตาลี เราก็พาไปวัดพระแก้ว กินผัดไทย หน้าพระลาน ส่งไปเดิน MBK จตุจักร ซึ่งก็ดูแฮปปี้ดีนะ ภาพนี้ถ่ายหน้าร้านข้าวมันไก่ ก่อนไปส่งที่B TS และให้กลับแท็กซี่เอง ตามแผนที่ที่เราให้ไปด้วย

The Parkland Condo

ถัดมาอีก2วันจากที่ซื้อห้องแรก แม่ก็ซื้ออีกห้องหนึ่ง เป็นห้องแบบสตูดิโอ อยู่ชั้น….. ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ดีมาก รับลมแต่ไม่รับแดด แม่ซื้อมาได้ในราคาที่ถูกมาก ราคา 1,550,000(แพงกว่าต้นทุนเพียง 1หมื่นเท่านั้น) ขณะนี้ตึกเพิ่งเริ่มก่อสร้าง เราก็ผ่อนดาวน์ไปเรื่อยอีกเกือบ2 ปีได้มั้ง แล้วก็ค่อยคิดต่อว่าจะขายหรือให้เช่าดี แม้เราจะพยายามคิดอย่างรอบคอบแล้วนะ แต่อนาคตก็ไม่มีใครรู้ได้ นี่เป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่งของธุรกิจเช่นนี้ บางคนก็สามารถทำกำไรมากในไม่กี่วันจากการซื้อโอกาสและการเปลี่ยนมือ แต่บางคนก็ทำไม่ขึ้น สำหรับเรา...เชื่อแม่อยู่แล้ว

ภาพห้องที่เราซื้อใหม่ อยู่อีกด้านของตึก เมื่อมองจากโมเดล

ภาพนี้เพื่อแก้ไขตำเแหน่งห้องที่ลูกศรชี้ผิดตำแหน่งไปหน่อยในวันก่อน

01 October 2009

the Parkland

คอนโด the parkland นี้เปิดขายไปแล้วเมื่อหลายเดือนก่อน (ทำเลติดแนวรถไฟฟ้า ส่วนต่อขยายจากวงเวียนใหญ่ น่าจะเปิดใช้ได้พร้อมๆกับตึกสร้างเสร็จพอดี ซัก2ปี) จองหมดในพริบตา เพราะราคาค่อนข้างถูก กว่าเราจะรู้ก็ต้องสืบเสาะเอาจากคนที่เขาจะขายต่อเอากำไร แต่เพราะฝีมือแม่ ก็หาจนได้ในราคาที่ best buy ที่สุด (1,660,000) เราคาดว่าสะสามารถทำกำไรจากการขายต่อเมื่อตึกเสร็จ หรือการให้เช่าก็ไม่ยาก
สรุปว่าในเวลา2วัน แม่ชอปปิ้งคอนโดไป 3ยูนิตแล้ว มูลค่าประมาณ 5,700,000 บาท และกำลังติดต่ออยู่อีก 1 ยูนิต ซึ่งยังไม่ต้องใช้เงินก้อนในขณะนี้

เชียงใหม่

ตรงนี้เป็นหน้าสำนักงานบริษัทสถาปนิก "แผลงฤทธิ์" กลุ่มหัวก้าวหน้าของเชียงใหม่ที่กำลังถูกจับตามอง
ลานจอดรถ พื้นเจาะช่องนั้นก็สำหรับปลูกหญ้า
บันไดขึ้นชั้น๒
ทุกห้องมีจักรยานให้ขี่เล่นด้วย

เข้าไปภายในห้องพัก
ด้านหลังของเคาท์เตอร์ต้อนรับ
ในส่วนของFront ต้อนรับลงทะเบียน
ของตกแต่งแต่ละชิ้นเป็นของที่ลุงมอร์ไซด์เก็บเป็นส่วนตัว อย่างเฟอร์นิเจอร์เก่ายุค50
เดินเข้าล็อบบี้โรงแรมแล้ว สำหรับเมืองอาจรู้สึกว่าการใช้ปูนเปลือยนั้นหมดสมัยแล้ว แต่ถ้าเราเอามาใช้ให้ถูกที่ถูกเวลาก็ยังใช้ได้อยู่นา
ทางขึ้น และป้านโรงแรม ช่องแสงกลมๆตรงกำแพงนั้นมาจากฝาตู้เครื่องซักผ้า

ลานหน้าโรงแรม อาคารข้างหน้าคือห้องพัก เรือนด้านขวาจะเป็นล็อบบี้ (ยังไม่เสร็จเพราะรอติดกระจกอยู่)

พ่อไปเชียงใหม่(ไปเช้า เย็นกลับ) เพื่อช่วยลุงมอร์ไซด์ทำงานเกียวกับการPresentation รูปภาพ เพื่อใช้ในการบรรยายเรื่องการสร้างสรรค์ของลุงมอร์ไซด์ในฐานะมืออาชีพ กับพวกนักออกแบบโฆษณาฟังกัน (ลุงมอร์ไซด์เป็นผู้บรรยายนะ)

ลุงมอร์ไซด์พาพ่อไปดูโรงแรมแห่งหนึ่งที่เขาไปช่วยทำรายละเอียด ตัวโครงสร้างทำโดยสถาปนิกหัวก้าวหน้าของเชียงใหม่ มีชื่อบริษัทว่า “แผลงฤทธิ์” (แค่ชื่อก็รู้สึกแล้วว่ามึงเจ๋งว่ะ) แต่ในส่วนดีเทลนี่ก็สำคัญนะเพราะมันจะเป็นชีวิตชีวาของโรงแรมนี้ เช่น โคมไฟ โซฟารูปภาพ

โรงแรมนี้ยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการนะ แต่ก็มีลูกค้าเต็มเกือบทุกวันแล้ว วันที่พ่อไปนั้นรู้สึกว่าจะมีเศรษฐีมาเจรจาขอซื้อไปทั้งทั้งโรงแรม หรือขอซื้อหุ้นด้วยอะไรประมาณนั้นแหละ

คอนโด The Plenary ตากสิน


เป็นห้องแบบ ๑ ห้องนอน

เฟอณ์นิเจอร์มีแถมให้ตามรูปที่เห็น (ยกเว้นทีวี ตู้นเย็น ไมโครเวฟ และของประดับอื่นๆ)
มองออกไปอีกทาง จะมีลมเอื่อยๆอยู่ตลอด แม้จะไม่สูงก็ตาม
มองจากระเบียงห้องเรา
มุมมองจากชั้นล่างมองขึ้นไป เห็นห้องที่เราจองอยู่ เราไม่เลือกชั้นบนๆ(โดยปกติชั้นบนๆจะดีกว่าและแพงกว่า แต่ที่นี่มี7 ชั้น ราคาเดียวกันหมด) เพราะชั้น๒นี้ใกล้สระว่ายน้ำมากกว่า แปลกดี

เป็นคอนโดอีกที่อยู่ในทำเลใกล้กัน แต่ที่นี่สงบกว่า อาจไม่เหมาะกับการให้เช่านัก แต่มันก็มีลักษณะเด่นที่แตกต่างจากที่อื่น ที่มีสระว่ายน้ำใกล้ชิด เราหวังว่าจะขายต่อเมื่อโครงการเสร็จเรียบร้อยและมีคนเข้าอยู่แล้ว (ประมาณเดือนธันวาคม) หรือเมืองจะไปอยู่ก่อนก็อาจจะได้ (ค่าเช่าประมาณ 16,000บาท)