29 April 2008

และพี่แจง(อจารย์คนไทยใน NUS ที่สนิทกับเมฆและพี่ๆ)ลูกชายพี่แจง และธีม ซึ่งไปเรียนภาษาที่สิงค์โปร์ด้วย
ภาพนี้เมื่อมองออกจากโรงแรม Novotel ที่เราไปพักหลายครั้ง คุยกับแม่อยู่ว่า นี่เป็นครั้งสุดท้ายหรือเปล่านี่ ที่จะมาสิงคโปร์ แม่คิดอยู่ซักพัก “ได้มาอีกก็ดี เพราะหมายความว่าเมฆจะได้ทุนที่ YST ต่อ ไม่มาอีกก็ดี เพราะเมฆจะได้ทุนที่อื่นต่อ ... ไปที่ไหนก็ได้ เราสรุป
ครั้งนี้เราพักที่นี่เพียงคืนเดียว เมฆก็มานอนด้วยตามเคย เราไม่รีบไปไหน แม่เองก็ไม่มีใจที่จะไปเดินช็อปปิ้งเหมือนเคยๆ อยู่กับลูกดีกว่า คุยกันดีกว่า วันรุ่งขึ้น เมฆก็เลยอยู่ด้วยทั้งวัน ไปกินข้างเที่ยงที่ IKEA (รวบอาหารเช้าเลย เพราะตื่นสาย) หลังจากนั้นก็เดินดูของกัน และตอนเย็นก็มานั่งที่ริมทะเล นั่งคุยกันที่นี่ก็สบายดี จนอาหารค่ำ ก็ไปล้างตาเป็ดหนังกรอบอีกครั้งหนึ่ง พ่อก็ว่าอร่อยดีนะ แต่แม่ไม่ได้ทาน และค่อยๆเดินกลับไปตามริมแม่น้ำจนถึงโรงแรม ก่อนที่จะแยกย้ายกัน ... “แม่มีความสุขมาก..ที่ครั้งนี้เมฆมาอยู่ด้วยทั้งวัน”
โชคดีนะ..กับการเตรียมโครงการที่จะเรียนต่อ...

Singapore 27-28 apr 08

มาสิงคโปร์เที่ยวนี้ เพื่อจุดประสงค์เดียวคือ มาดูเมฆ “Senior Recital” ครั้งสุดท้ายของการเรียนปริญญาตรีที่ YST. เราจึงมารอที่หอประชุมแต่เนิ่นๆ แม่มีความตื่นเต้นมาก จนต้องเดินจงกรมบริเวณนั้นก่อนซักพักหนึ่ง

เมฆขึ้นเวทีเพื่อปรับเสียง โดยมีแม่ไปทักทายด้วย
ตลอดการเล่น เราไม่มีความสามารถพอที่จะประเมินได้หรอก แต่แม่ก็ยังรู้สึกถึง “ภาษาร่างกาย” ที่เมฆแสดงออกว่า รู้สึกผ่อนคลายพอควร มากกว่าครั้งที่แล้วอีก (เอาตัวรอดเก่งนะแม่) ซึ่งสุดท้ายก็จบลงด้วยดี
พี่ๆที่มาชมการแสดง เพื่อให้กำลังใจ (พ่อแม่)

26 April 2008

การปฏิบัติธรรม



วันที่ 26 เม.ย. วันสุดท้ายการโครงการปฏิบัติธรรม 8 วัน 7 คืนของเมือง ที่ยุวพุทธฯ แต่น่าจะเป็นการเริ่มต้นการค้านหาธรรมะของเมืองมากกว่า
การอบรมชั่วโมงสุดท้ายเขาอนุญาตให้พ่อแม่เข้าไปฟังด้วย (น่าจะมีการบรรยายเรื่องพระในบ้าน) และจบด้วยการในโยคีนำพวงมาลัยมาให้กับพ่อแม่ น้ำตาของแทบทุกคนก็ไหลออกมา เพราะความปีติ ไม่ใช่เพราะลูกมากราบพ่อแม่เหมือนการแสดงทั่วๆไป แต่ครั้งนี้เป็นการจริงใจ ปีติของพ่อแม่นั้นเกิดขึ้นด้วยการเห็นลูกเริ่มต้นการเป็นผู้แสวงหาธรรมะอย่างแท้จริงมากกว่า

24 April 2008

เยาวชน ยุวพุทธ

วันพุธที่ 23 เม.ย. เป็นวันที่เมืองเข้าไปปฏิบัติธรรมเป็นวันที่ 5 แล้ว (ในโครงการ 8วัน7คืน) เราก็เลยแวะไปดู ไม่ได้ตั้งใจไปเยี่ยมหรอก เพราะไม่ได้หวังไปพบด้วย ภายนอกก็มีตั้งทีวี ถ่ายทอดให้ดูกัน ภาพเล็กที่มุมซ้ายเป็นเยาวชน ส่วนภาพใหญ่จะเป็นวิทยากรที่บรรยายขณะนั้น พรุ่งนี้แม่ก็เลยจองที่จะนำขนมมาเลี้ยง

หลังจากนั้นแม่ก็ไปหาขนมที่เหมาะสม (ไม่เป็นเนื้อสัตว์ด้วย) จึงสั่งทำ แยมโรล จำนวน 300 ชิ้น สำหรับโยคี และเจ้าหน้าที่ วันรุ่งขึ้นจึงนำมาส่งให้เจ้าหน้าที่ ( อยู่ในถุงสีชมพู บริเวณล่างขวาของรูป)
ภาพนี้เป็นบรรยากาศภายนอก สังเกตเห็นจอโปรเจเตอร์ ตรงกลางขวาของรูป ที่ถ่ายทอดมาจากในห้องปฏิบัติ
ออกจากสวนแสงธรรมแล้ว ก็มาทานข้าวที่ตลาด ขณะที่เดินตามแม่นั้นก็เห็นแม่ค้าปลา ทุบหัวปลาเพื่อขายทั้งที่เป็นๆ ปลาดิ้นพลาดๆๆ สยดสยองมาก ก็คิดว่าปลาในนี้จะต้องโดนทุบเช่นนี้ทั้งหมดแน่ จึงขอซื้อมาทั้งที่เป็นๆ 5 ตัว (75บาท) แล้วก็เอาไปปล่อยในคลองข้างร้านยายเปล่ง... สบายใจดี อย่างน้อยปลา5ตัวนั้น ก็ยืดเวลาตายออกไปอีกสักระยะหนึ่ง เราทำอย่างนี้กัน 3ครั้งแล้ว

ทำบุญ ตักบาตร


หลังจากกลับจากสิงคโปร์แล้ว พ่อแม่ก็ไปทำบุญตักบาตรเป็นประจำทุกวัน บางวันยายก็ไม่ได้ไป เพราะป่วยและด้วยความเลื่อมใสของแม่ขณะนี้จึงมีการทำอาหารที่บ้านเองด้วย (แม่ทำเองนะ)

ประกาศขาย

คงถึงเวลาแล้วที่จะต้องตัดสินใจประกาศขายลูกหมาทั้ง 3 เพื่อให้เจ้าของใหม่เอาไปเลี้ยง อาจจะดีกว่าที่เราเลี้ยงก็ได้นะ ในภาพเป็นประกาศที่ลงในเวป pantip

21 April 2008

ครอบครัว Beagle

วันนี้อายุเดือนครึ่งได้แล้ว เริ่มให้อาหารเม็ดแล้ว และกำลังจะให้หย่านมแม่ และแยกนอนกับแม่แล้ว เมื่อเราตัดสินใจบอกขายทางเนท ก็น่าจะเตรียมตัวสำหรับแม่ลูกที่จะต้องจากกันในไม่ช้า เด็กๆน่ารักมาก โดยเฉพาะเจ้า Chacole (ลูกชาย) แม่จะเอ็นดูเป็นพิเศษ คงเป็นเพราะเป็นตัวเดียวที่มีชื่อ ส่วนลูกสาวทั้งสองยังไม่ได้ตั้งชื่อเลย นึกถึงตัวเรา ถ้าจะต้องแยกจากกัน เราก็คงยอมไม่ได้ ก็ได้แต่ให้เหตุผลตัวเองว่า นี่คือสัตว์เดรัจฉาน สัญชาตญานของความเป็นแม่จะอยู่ไม่นานนัก ส่วนตัวพ่อนั้น ไม่ต้องพูดถึง เพราะไม่มีเลย แต่อย่าไรก็ตาม หากไม่เกิด ก็ไม่มีทุกข์ ดังนั้นในไม่ช้านี้ ก็คงจะทำหมันให้ yahooแล้วล่ะ จะได้ไม่ต้องลำบากใจเช่นวันนี้



The New Viola

ในอีกเดือนสองเดือนข้างหน้า เมฆก็จะได้วิโอล่าใหม่เป็นของตัวเอง ราคาเกือบ 500,000 บาท จะเรียกว่าแพง หรือไม่ก็ได้ เมื่อเทียบกับรถแจ๊ส เกือบ 1 คัน หรือ เท่ากับคอมพิวเตอร์ mac book pro 6 เครื่อง แต่ถ้าเทียบกับวิโอล่าดีๆซักตัว ก็ต้องถือว่าไม่แพง ภาพนี้เมฆเอาหนังสือ STRAD (แม็กกาซีนทางดนตรีคลาสิค ที่เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางทั่งโลก) ได้ลงช่างทำไวโอลินตระกูลนี้ขึ้นปก(คนในปกคนคนทำให้เมฆ) อันเป็นการรับประกันถึงชาติกำเนิดเป็นอย่างดี และน่าจะคุ้มค่าที่สุด อีกทั้งมันก็เป็นไปตามแผนที่เราวางไว้ตั้งแต่แรกๆแล้ว จากวิโอล่าช่างกั๊ว ขยับเป็นวิโอล่าจีน และกระโดดมาเป็นยุโรป เมื่อเราตัดสินใจแล้ว ว่าเราทำจริง
“สมควรได้แล้วล่ะ เมฆ” เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา เมฆทำทุกสิ่งทุกอย่างเป็นการพิสูจน์แล้ว

singapore 3

วันที่ 19 เม.ย. พ่อแม่จะเดินทางกลับในตอนเย็น แม่ก็ยังไม่ค่อยได้เดินตามอัธยาศัยเลย วันนี้จึงเป็นโอกาสสุดท้าย ก่อนกลับเมฆก็ตามมาสมทบด้วย ก่อนที่จะเดินทางกลับ
บนเครื่อง jet star ตะวันลับก้อนเมฆแล้ว แม่บอกว่า อีกแค่อาทิตย์เดียวเราก็จะกลับมาอีกนะ

สิงคโปร์ 2

อาหารเช้าที่แม็ค นี่ก็ง่ายๆ เพราะอยู่หน้าโรงแรมโนโวเทลเลย เดี๋ยวนี้เราก็ไม่ค่อยรีบไปช็อปปิ้งกันแล้ว เมฆ เมืองก็เลยมีโอกาสได้นอนสบายๆ
ส่วนอาหารเย็น ก็เป็นไปตาม Recommend ของเมฆ “เป็ดหนังกรอบ”ที่มารีน่า สแควร์ แต่ยังกินไม่ค่อยเต็มเหนี่ยว เพราะแพงหน่อย แถมมีกระดูกให้กวนใจอีก
วันที่ 18 เม.ย. เมืองต้องเดินทางกลับกรุงเทพก่อน เพราะเช้าวันที่ 19 จะต้องไปปฏิบัติธรรมที่ยุวพุทธิกสมาคม (7 คืน) พ่อแม่ก็เลยมาดูเมฆซ้อมเพลงที่จะ recital ในอาทิตย์หน้าด้วย เป็นการซ้อมให้อาจารย์ยีริดูด้วย อาจารย์ก็เป็นคนน่ารักมาก ให้กำลังใจ ตลอดเวลา โดยเฉพาะกับ พ่อแม่ที่นั่งอยู่ด้วย แถมยังเอาสมุดบันทึกคะแนนให้ดูด้วย สร้างความปลาบปลื้มให้กับแม่เป็นที่ยิ่ง


singapore 16-19 apr08

ตามกำหนดเดิมวันที่ 16 เมฆจะ Recital แต่ดันมีการเลื่อนเป็นวันที่ 27 เม.ย.ซะนี่ คราวนี้ก็ป่วนเลย จะเลื่อนตั๋วก็เสียค่าธรรมเนียมค่อนข้างแพง (ประมาณ 800บาท/คน/เที่ยว)บวกกับส่วนต่างเราคาตั๋วอีก ทำให้ตัดสินใจว่า ไปก็ไปวะ จองอะไรไว้หมดแล้วด้วย เมืองก็พอดีว่างด้วย ก็คิดว่า ได้ไปกินข้าวด้วยกัน คุยกัน 4 คนก็คุ้มกับความสุขแล้ว
ที่สุวรรณภูมิ บัตรเครดิตของพ่อมีสิทธิเข้า first class louge ได้ 2 คน เที่ยวที่แล้ว พ่อกับแม่เข้าไป ทิ้งเมฆไว้ให้ทานเบอร์เกอร์คิง คราวนี้ก็เลยให้เมืองเข้าไปกับแม่ ส่วนพ่อไปทานฮอทด็อกแทน Ikea
ไปถึงเราก็ไป ikea ก่อนเลย เพราะอยากให้เมืองไปดูไอเดียแต่ห้อง ส่วนแม่นั้นเรียกว่ามือตกไปมาก เพราะแทบไม่ได้ของเลย พลาดเป้าไปมาก นี่ขนาดวันหลังๆไปอีกครั้งหนึ่ง ก็ยังไม่ได้เป้าอยู่ดี Art Friends
เราไปดูร้านขายวัสดุอุปกรณ์เครื่องเขียนทางศิลปะกัน เป็นร้านที่เราเคยอยากทำให้เป็นประมาณนี้แหละ ของเยอะดีจริงๆ แต่ถึงวันนี้ แม่ทำใจแล้ว ทำเท่ามีให้ดี แล้วเอาเวลามาอยู่กับครอบครัว มาปฏิบัติธรรมดีกว่าอาหารค่ำ
อาหารค่ำที่ง่ายที่สุด แต่มีความสุขที่สุด เพราะเราได้ทานด้วยกัน ข้างเตียงในโรงแรมนั่นแหละ
Topic สำคัญในการคุยกันครั้งนี้ จะเป็นเรื่องทุน และการเรียนต่อ ที่จริงๆแล้วเรายังไม่ค่อยอยากคุยกันตอนนี้ เพราะอยากให้เมฆ Recital ให้แล้วเสร็จเสียก่อน แต่เกมก็พาไปคุยอยู่เป็นนาน อย่างไรก็ตาม แม่ก็สบายใจขึ้นบ้าง (หรือเปล่า)

สงกรานต์ ที่ชะอำ

วันที่ 7 เมย. คนเริ่มกลับกันแล้วในช่วงบ่าย ก็จึงเป็นโอกาสที่ดีที่เมืองจะได้ไปหัดขับรถกัน ซึ่งที่นี่เป็นที่ๆเหมาะมาก เพราะไม่มีคนเลย ถนนดีด้วย แต่พ่อก็ไม่อัพเดพการสอบซะแล้ว ก็คิดว่า อาทิตย์หน้า พี่แบงค์มาก็อาจจะซ้อมแบบใกล้คียงจริงหน่อย หวังว่าในไม่ช้าก็คงจะได้ไปสอบใบขับขี่ได้แล้ว เพราะเมืองเริ่มต้นได้ไม่เลวเลย
หลังจากที่ป้าหมอและลุงหมอมาพักที่บ้านเรา พอกลับไปกรุงเทพ อีก2วันก็โทรมาบอกแม่ว่า ได้ซื้อคอนโดชั้น 23 แล้ว ราคาประมาณ 5 ล้านบาท เป็นห้องที่ยาวทะลุตึกเลย พื้นที่ประมาณ 145 ตารางเมตร ในภาพ แม่กำลังตรวจดูสภาพต่างๆเพื่อประเมินว่าควรจะต้องซ่อมอะไรบ้าง
ก็เป็นสมาชิกใหม่อีกคนหนึ่ง ขณะนี้มีป้าสุ เรา ป้าแจ๊ด ป้าหมอ เวลามาพร้อมๆกันคงมันพอควรเลยล่ะ
ช่วง Long weekend ที่วุ่นวายที่สุดสำหรับการเดินทางออกต่างจังหวัด โดยเฉพาะความปลอดภัยบนท้องถนน เราก็เลยตัดสินใจออกเดินทางแต่เนิ่นๆ คือตั้งแต่เช้าวันที่ 11 เม.ย. หลังจากนั้น ก็มีมาสมทบ โดยมีบ้านพี่แบ็งค์ (ลุงยุทธมาแทนป้าแจ้ด) บ้านป้าตุ๊ก บ้านป้าวารี ในภาพคือไปทานอาหารทะเลใกล้ๆที่พัก “ร้านสังเวียนซีฟู้ด” รสชาติก็ใช้ได้เลย

คอนโดที่ชะอำ 5-8 เม.ย.51

มาชะอำ เที่ยวนี้ พ่อแม่ นำมาก่อน (เพราะเมืองต้องเรียนภาษาอังกฤษก่อน ในวันอาทิตย์) แต่มีป้าหมอ ลุงหมอ ตามมาสมทบ และมานอนที่บ้านเราด้วย วันรุ่งขึ้นหลังจากอาหารกลางวันที่ไปทานร่วมกับ ป้าตุ๊ก น้าอ๋อ ป้าสุ ลุงโป ป้าเหมียว พี่ต๋อ ก็เลยมาทานข้าวเหนียวมะม่วงต่อกันที่บ้าน แล้วก็ดูคอนเสิร์ต เบิร์ด ธงไชยต่อ จนช่วงเย็นๆ เมืองก็นั่งรถทัวร์ตามมา พี่ต๋อก็เลยมาค้างด้วยเลย

“เดินตามอัธยาศัย”
หลังจากที่ว่างเว้นที่จะมาชายทะเลกันไปนานพอดู กิจกรรมที่เราชอบก็คือไปเดินเล่นชายหาดตอนเย็นๆ ที่เรียกว่า “เดินตามอัธยาศัย” ก็เพราะ ระหว่างที่แม่ไปสำรวจคอนโดที่กำลังสร้างอยู่ เมืองก็ถ่ายภาพไป พ่อก็เดินไป เรื่อย
อาหารเย็นเราไปทานอาหารญี่ปุ่นที่ร้า น อาโยอิ ที่วิลเลจมาร์เก็ต หัวหิน กินแบบง่ายๆ แต่เมืองก็ว่า อิ่มมาก โปรดสังเกตอาหารของพ่อ ไม่ใช่ คัชซึด้ง แล้วนะคีบ

จบโครงการฝึกงาน แม็คโดนัล

วันที่ 28 มี.ค. เป็นวันสุดท้ายของการทำงานที่แม็ค ระยะ 2เดือน คงได้ประสบการณ์ที่ดีหลายอย่างนะ ยินดีด้วยครับ
“แม็คโดนัลด์ สวัสดีครับ...” พนักงานขาย กำลังให้บริการสาวสวย จู้จี้ ซื้อน้อย แต่คุยเยอะ แต่ก็อดที่จะชมไม่ได้ว่า “พนักงานขายคนนี้นี่ หน้าตาดีเนอะ ดูทะมัดทะแมง มีหน่วยก้านดี ลูกใครกันนี่ สงสัย “แม่” จะสั่งสอนมาดี ใช่มั้ย...”

เช็งเม้ง

ปกติวันเชงเม้งจะอยู่วันที่ 5 เม.ย. ของทุกปี แต่เราก็ไปก่อนเสมอ เพราะไม่อยากไปเจอคนมากๆ และรถก็ติดด้วย แต่ปีนี้ไปกันค่อนข้างน้อย แค่ที่เห็นในภาพนี่แหละ ทำให้คิดถึงความคิดของคนสมัยเก่าว่า เช็งเม้ง อย่างน้อยก็ทำให้ลูกๆหลานได้มีโอกาสมาพบกันบ้าง อย่างน้อยก็ในวันเคารพบรรพบุรุษนี่แหละ แต่ยุคสมัยเปลี่ยนไป หลายๆคนก็คิดถึงแต่เรื่องของตัวเอง ละเลยที่อย่างน้อยก็เป็นการเคารพบรรพบุรุษตัวเอง ให้สำนึกว่าเรานี้มิได้เกิดมาจากกระบอกไม้ไผ่นะ

INDA พบผู้ปกครอง


หลังการประกาศผลเป็นทางการแล้ว จึงมีการเชิญผู้ปกครองเพื่อตอบข้อซักถาม และเป็นการทำความรู้จักกันชั้นต้นก่อน พ่อแม่ก็เข้าไปฟัง ส่วนเมืองนั้นพวกพี่ๆก็เอาตัวไปทำความรู้จัก โชคดีนะ ที่นักเรียนกรุงเทพคริสเตียนปีนี้เข้าไปพร้อมกันถึง 3 คน และก็เป็นคนนิสัยดีด้วย ดีจริงๆ
ผู้หญิงที่ยืนอยู่หน้าเวที ก็คืออาจารย์หนึ่ง ผู้อำนวยการโครงการ INDA

มี.ค. ๕๑

ถือเป็นโอกาสฉลองเล็กๆน้อยสำหรับการสอบเข้า INDA ได้ เท่านั้นยังไม่พอ ยังได้ถึงอันดับ 6 ซะด้วย (นี่ถ้ายื่นคะแนน SAT ใหม่ได้ทันละก็...) เย็นนี้เลยเชิญน้าเดียร์ น้าก๋ง ดิว และยาย มาทานที่ร้านน้ำเคียงดินด้วยกัน (ในภาพนี้ยังไม่มีใครมากัน เรามาคอยก่อน)
เมฆกลับกรุงเทพเพื่อ Audition
สนง.การอุดมศึกษา ร่วมกับประเทศออสเตรีย ให้ทุนนักศึกษาไทยไปเรียนดนตรีคลาสิค ระยะสั้น และยาว (9เดือน) นอกจากจะมาออดิชั่นแล้ว เราก็ยังได้มาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง ภาพนี้ไปทานที่ร้านอาชีพเตี่ยกัน โปรดสังเกตว่า เมืองใส่เสื้อฟอร์ม Mc Donald ด้วย หลังจากนี้ก็จะต้องไปทำงานต่อ