27 February 2008

ประกาศผลสอบ INDA


แล้วก็ถึงวันที่รอคอย คือการประกาศผลอย่างเป็นทางการที่เมืองสอบเข้า INDA ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็พอรู้อยู่แล้วว่า “นอนมา” ก็เลยดูเหมือนไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไร แต่ก็ต้องรอการประกาศอย่างเป็นทางการนี่แหละ ที่เห็นในภาพเลข 009 นั้นเป็นเลขที่สอบ แต่เมืองสอบได้ลำดับที่ 6 “ไม่ธรรมดานะ” ผู้สอบกว่า 200 คน แล้วได้ที่ 6 นี่ (รับตัวจริง 80 คน) ต้องขอชมเชยจริงๆ ขั้นตอนต่อไปก็คือการรายงานตัว จ่ายเงิน แล้วก็คงเริ่มSummer และไปทำกิจกรรมกับภาคปกติ ก่อนที่จะเปิดเทอมจริงๆ ในเดือน ก.ค.หรือส.ค. นี่แหละ .... บรรยากาศในบ้านก็เลยอบอวนด้วยเรื่องที่น่ายินดี น่ายินดี จริงๆ

25 February 2008

ห้องใหม่ สำหรับนิสิตใหม่

ทาสีห้อง
หลังจากแบ่งพื้นที่ห้องกันแล้ว คือห้องนอนเมฆเก่า จะเป็นห้องนอนเมือง ห้องกลางที่เคยเรียนพิเศษ ก็เป็นห้องกลางให้พ่อแม่ทำงานได้ เอาไว้อุปกรณ์คอมพ์รวม ส่วนห้องนอนเมืองเก่า ก็ทำเป็นห้องทำงาน มีโต๊ะเขียนแบบ โต๊ะทำงาน ตู้ก็บอุปกรณ์ต่างๆ ส่วนห้องนอนเมฆก็จะย้ายไปอยู่ชั้นล่างห้องใหม่

ในภาพเมืองกำลังทาสีห้องเป็นสีดำ โดยมีพ่อช่วยด้วยนิดหน่อย ทาแม่งเองเลยหมดเรื่อง ขืนรอช่างก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะได้ทำ ขั้นต่อไปคือ ย้ายแอร์ ล้างแอร์ ทำโต๊ะหนังสือ ทำตู้ ทำชั้น ... เริ่มต้นชีวิตใหม่ มันต้องอย่างงี้

วันมาฆะบูชา

วันมาฆะบูชา
ด้วยเจตนาของป้าสุ (เพื่อนแม่) อยากจะทำบุญด้วยการบริจาค พระไตรปิฎก กับเจ้าคุณ ว.วชิระเมธี (เหมือนอย่างที่เราเคยไปทำกันมาแล้ว) แม่ก็จัดการให้ ไปส่งให้ถึงที่ แม้เราจะไม่ได้เป็นผู้ออกเงินซื้อ แต่ด้วยเจตนาดีของแม่นี้ ย่อมเกิดเป็นบุญกุศลเช่นกัน แต่เนื่องจากไปวันนั้นท่านเจ้าคุณไม่ค่อยสบายก็เลยไม่ได้ลงมารับ เราก็เลยไปไหว้พระประธานที่วัดเบญจมบพิธกัน เมืองก็ดีมาก ที่คอยดูแลคุณยายตลอด (วันนี้เป็นวันทำงานที่แม็ควันแรกด้วย สังเกตจากชุดที่ใส่)

McDonald

เพราะไอเดียอันบรรเจิดของแม่ อยากหาอะไรให้เมืองทำในช่วงปิดเทอมนี้ จะไปเรียนโปรแกรมคอมที่net design ก็ยังต้องรออีกนาน ช่วงนี้คงว่างไปหน่อย อย่ากระนั้นเลย ลองติดต่อ 7-11 ดูเพื่อจะไปฝึกงาน หรือไปแม็ดโดนัลดี พ่อบอกว่า “แม็ค” สิดีกว่า เพราะเป็นระบบมาตรฐานโลก ฝึกงานที่นี่ หรือที่นิวยอร์คก็ระบบเดียวกัน เท่ด้วย ไวเท่าความคิด ภายในหนึ่งวันแม่สามารถติดต่อผู้บริหารได้เพื่อลัดคิวทำงานได้เลย ตอนแรกกะว่าจะไปทำที่สาขา ถนนข้าวสาร เพราะมีฝรั่งเยอะหน่อย แต่พอดีที่สาขาราชดำเนินขาดคน สาขานี้เป็นสาขาใหญ่นะ เปิด 24 ชม. กว้างขวางมาก ก็เลยได้ไปทำที่นั่นในวันถัดมา จะเรียกฝึกงานก็ไม่ถูกนัก เขาเรียกพนักงาน part time แรกเริ่มต้องแต่งเสื้อขาวกางเกงสแลคดำก่อน

วัน21 กพ (วันมาฆะบูชา) เป็นวันเริ่มงานวันแรก 10.00-14.00 น. ก็นับเป็นการเริ่มต้นที่ดีนะ เมืองเองก็ยินดีทำ ทราบว่า เมืองก็โอเค หลังจากวันแรกผ่านไป อยากจะบอกเมืองว่า ใครๆก็อิจฉาเมืองนะที่ได้งานแบบนี้ โดยเฉพาะพวกผู้ใหญ่ เค้าก็ว่าดีกันทุกคน อาจไม่ใช่ประสบการณืยิ่งใหญ่อย่าง AFS แต่ก็บวกแน่นอน ตั้งใจเถอะ แล้ววันหนึ่งเมืองจะเห็นคุณค่าของมัน

17 February 2008

มหากาพย์มหาภารตะ

ซีดีครบชุดของอาจารย์วีระ ธีรภัทร ออกมาแล้ว ก็ 64 แผ่น พ่อก็เลยขมักเขม้นทำเป็น MP3 เพื่อจะอาไปลงใน ipod อีกครั้งหนึ่ง ฟังกันกี่ชั่วโมงก็ลองคำนวณดู โปรดอดใจรอ
ตรงข้างๆคอมมีโรศัพท์ใหม่อยู่อันหนึ่ง เป็นของฮัชท์ แบบเติมเงิน วันละ15 บาทใช้ตั้งแต่เที่ยงวันยันเที่ยงคืน ไม่อั้น ... คุ้มหรือเปล่าวะกู

วิธี สอบสัมภาษณ์

วิธี สอบสัมภาษณ์
วันที่ 17 กพ เมืองมีนัดสอบสัมภาษณ์ของ INDA สอบกัน 150 คน ตัดเหลือ 80 คน แต่เมืองเป็น 1 ใน 80 ไปแล้ว วันนี้ที่คณะเขาบอกว่า ไม่จำเป็นต้องแต่งนักเรียนก็ได้ แต่เมืองก็เลือกชุดนักเรียนนี่แหละ มันกลางๆดี พ่อก็เห็นด้วย (แล้ววันนี้ก็คงเป็นวันแต่งนักเรียนวันสุดท้ายแล้วด้วย เพราะเมืองปิดเทอมซะแล้ว) รอประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง วันที่ 27 ก.พ. แล้วจะรอเมฆกลับมา ค่อยเลี้ยงใหญ่ ป่าวประกาศกันอีกครั้ง แต่ตอนนี้เมืองก็เป็นอิสระแล้ว

Concert @ Settrade

พ่อทำรูปไปให้เตยในโอกาสที่เล่น Hansel & Gretel ก็รูปสไตล์เดิมๆนะ (เมฆเมืองคงจำได้) พวกเราอาจดูชินตา ไม่ตื่นเต้นอะไร แต่มันก็ใหม่เสมอสำหรับผู้รับใหม่ และก็ดีใจเสมอเพราะเป็นรูปเขาเอง
15 กพ พ่อไปดูคอนเสิร์ตที่ Settrade (ที่ที่เมฆเคยไปRecital) เป็นการแสดงของกีตาร์คลาสิคเป็นหลัก (พ่อจำชื่อไม่ได้แล้ว) แล้วก็มีเตย แล้วก็วิโอล่า (ก็จำชื่อไม่ได้เหมือนกันเพราะลืมหยิบสูจิบัตรกลับมา) และอื่นๆอีก
ก็น่าดีใจกับเตยนะ มีผลงานออกมาอย่างนี้ก็จะเริ่มเจนเวทีมากขึ้น ส่วนอีกอย่างก็ไปแสดงความยินดีกับกีตาร์ด้วย เพราะเขาก็เคยมาเล่นในคอนเสิร์ตเมฆด้วย




11 February 2008

congratulations, WITEE

จำได้ว่าเราเคยมีความรู้สึกอย่างนี้มาครั้งหนึ่ง เมื่อ4 ปีที่แล้ว เมื่อวันที่เรารู้ข่าวว่าเมฆสอบได้ทุนสิงคโปร์ วันที่เราภูมิใจที่สุดว่าลูกได้เข้าไปอยู่ที่ที่ดีที่สุดแล้ว ด้วยความสามารถของเขาเอง เขากำลังก้าวย่างเข้าสู่จุดเปลี่ยนในชีวิตที่เขาออกแบบเอง เราชื่อมั่นว่าเมล็ดพันธุ์เราดีพอกับดินที่ดีที่สุด แล้ววันหนึ่งเขาก็จะเจริญเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

วันนี้เราก็ได้รู้สึกอย่างนั้นอีกครั้ง เพียงแต่เปลี่ยนจาก “เมฆ” เป็น “เมือง”
ต่อจากนี้ จะเป็นช่วงฮันนี่มูนของเมือง เมืองจะได้ลิ้มรสความหอมหวาน ความอิ่มเอม ความภาคภูมิใจ อย่างที่ใครก็อธิบายให้ฟังไม่ได้ ต้องผู้ลิ้มรสเอมเท่านั้นจึงจะรู้ว่า มันอบอุ่นในใจอย่างไร
“ยินดีด้วย..เมือง น่าภูมิใจจริงๆนะ...เมืองทำได้แล้ว พิสูจน์แล้ว ดีใจด้วยอีกครั้งนะ”
ชีวิตจะเหมือนเกมส์หรือเปล่านะ เราผ่าน Level หนึ่งแล้ว ก็ต้องมาเริ่มอีก level หนึ่ง เริ่ม reset คะแนนกันใหม่ เริ่มต้นใหม่ทำคะแนนใหม่เพื่อจะผ่านไปอีกlevel หนึ่ง ไม่มีวันจบ แต่คะแนนก็ใช่จะไม่สำคัญนะ เพราะเราไม่รู้หลอกว่า level ต่อไปเขาต้องการอะไรบ้างเพราะฉะนั้นเราจึงต้องทำวันนี้ให้ดีที่สุดเสมอ

ในภาพบนเมืองจะอยู่ในลำดับ ๙ ตามเลขที่สมัคร
วันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์
อาจารย์หนึ่ง (ผู้อำนวยการโครงการ INDA) โทรมาหาแม่ แต่แม่ไปปฎิบัติธรรมแล้ว พ่อจึงเป็นผู้รับโทรศัพท์ แทน อาจารย์หนึ่งโทรมาเพื่อแสดงความยินดีด้วย บอกว่าเมืองสอบได้ลำดับที่ ๑๒ เธอกล่าวชมเชยมากถึงความสามารถ ยินดีที่จะมาช่วยกันสร้างโปรแกรมนี้ให้มีชื่อเสียง พ่อบอกอย่างถ่อมตัวว่า “เดี๋ยวครับ รอสอบสัมภาษณ์ก่อนครับ” “โธ่..คุณพ่อ ต่อให้สอบสัมภาษณ์ได้ 0 ก็ยังเข้าได้อยู่ดี เพราะคะแนนรวมทำมาดีอยู่แล้ว พอร์ตของเค้าก็ทำได้คะแนนเต็มนะคะ อาจารย์ทุกคนให้ A หมด” คุยไป ยอไป ยอมา ถ่อมตัวบ้าง แล้วสุดท้ายก็บอกว่า “พบกันวันรายงานตัวเลยนะคะ หรือไม่ก็วันปฐมนิเทศ”
วันนี้น่าเสียดายอยู่อย่างเดียวเท่านั้นว่า ถ้าแม่เป็นคนรับโทรศัพท์สายนี้ แม่คงต้องดีใจจนน้ำตาไหลแน่ ส่วนใบหน้านั้นไม่ต้องห่วงอยู่แล้ว คงจะบานเป็นจานดาวเทียมแน่นอน

คุณแม่เข้าอบรมปฏิบัติธรรม ๗ วัน

วันอาทิตย์ที่ ๑๐ ก.พ. พ่อกับแม่ไปดูหนังสือที่ ยุวพุทธ ขณะที่แม่สมัครเป็นสมาชิก ก็มีคนมาชวนให้เข้าอบรม ๗ วัน แม่ก็สนใจ แต่ยังทำใจฆ่าความกลัวไม่ได้ กลัวหลายๆอย่าง กลัวไปหมด จนเราขับรถออกมา คุยกันนิดหนึ่ง แม่ก็ตัดสินใจใหม่ เข้าไปสมัครเพื่อเข้าคอสในวันรุ่งขึ้นทันที ด้วยความกล้าหาญ
“ถ้าแม่ไม่เริ่มต้นซักที ก็คงไม่ได้ไปไหนซักทีเหมือนกัน” คือคำพูดที่แม่บอกตัวเอง แล้วก็ลงมือทำ
วันรุ่งขึ้นพ่อก็ไปส่งแม่แต่เช้า ความกลัวยังไม่หมดนะ แต่ความกล้ามีมากกว่า พอพ่อส่งแล้วก็รีบกลับทันที เดี๋ยวจะเหมือนเด็กอนุบาล ที่จะร้องขอกลับบ้านซะก่อน
ในภาพนี้เป็นด้านหน้าตึก และเป็นส่วนที่มาลงทะเบียนกัน ทุกคนต้องแต่งด้วยชุดขาว แต่แม่ไม่ได้อยู่ในภาพนะ


06 February 2008

อีก Job หนึ่งของคุณแม่คนขยัน

ในภาพนี้กำลังคุยกับ “ปอนด์” คนวาดรูป ตามที่เราหาตัวอย่างไว้
แม่ช่วยจัดหาภาพติดบ้านพักตากอากาศที่สมุย เป็นบ้านของ ป้า ของโป้ง ใช้หลานรูปเชียวล่ะ นอกจากต้องหาภาพที่เหมาะแล้ว ยังต้องตามดูด้วย ว่าคุณภาพได้มาตรฐานหรือเปล่า

ม้านั่งข้างถนน

ขาออกมาจากสมาคมสุนัข แม่ก็ตาไวเหลือเกิน เหลือบไปเห็นม้านั่งข้างทาง เรียกพ่อจอดรถ แล้วก็ลงไปซื้อเลย ได้มา 2 ตัว ที่แม่นั่งอยู่นั่นแหละ

เรื่องของหมา

อันนี้เป็ชาติตระกูลของคุณ Yahoo และนี่เป็นของคุณ Yahoo


นี่เป็นของคุณ Google ถ้าต้องการจะอ่านรายละเอียดก็คลิ๊กที่รูปขึ้นมาได้ครับ



ถ้าเราสังเกตที่ชื่อหมา จะต้องมีชื่อ “คอก”ผู้เพาะพันธุ์อยู่ด้วยเสมอ เราก็เลยตั้งชื่อ “คอก”กับเขาด้วย เพราะเราต้องแจ้งการผสมพันธุ์ของทั้งคู่บ่าวสาว ในเวลาอันสั้นนี้เมืองกับพ่อก็เลย ตั้งชื่อคอกว่า WWW. (เวอลด์ ไวด์ เวป) เพราะฉะนั้นลูกในคอกของเราก็จะต้องชื่อ http://www.sanook.com/ เป็นต้น
ก็เป็นอันว่า วันนี้ เมือง เป็นเจ้าของ คอกสุนัข http://www.ไป/เรียบร้อยแล้ว (ตามที่ปรากฎในเอกสาร)




ยังมีเวลาก็เลยให้เมืองนำหลักฐานต่างๆมาจัดการเรื่องหมาๆให้เรียบร้อยซะที เริ่มจากมาทำบัตรสมาชิกก่อน แล้วก็มาแจ้งการรับโอนสุขจากเจ้าของเก่าทั้ง2ตัว พร้อมกับทำประวัติสายพันธุ์ด้วย คุณ 2 ตัวนี้ไม่ใช่หมาธรรมดา ไม่มีสกุลรุนชาตินะครับ มีพ่อระดับแชมป์ในอเมริกา(google) ส่วน Yahoo มีพ่อเป็นแชมป์ประเทศไทย ตามหลักฐานแล้วเราไม่สามารถเปลี่ยนชื่อได้ก็เลยต้องใช้ชื่อเดิมไป


ไหว้อาม่า / ตรุษจีน

พออยู่ด้วยกันซักพักก็จะคุ้นกับทุกคน ภาพนี้มาดูตออนอากงเซ็นบัตรเครดิต ไม่กลัวผู้ใหญ่ด้วย
หลังจากนั้นก็ออกมากินข้าวที่ โกล์ดคิชเช่น (เหมือนเช่นทุกทีอีก) สมาชิกใหม่ที่ร่วมโต๊ะด้วยคือ “แป้ง”ลูกสาว “ซาแปะ” น่ารักดี เป็นเด็กกล้าพูด ฉลาด ดัดจริตเหมือนเด็กผู้หญิง พูด 3 ภาษา เพราะเรียนโรงเรียนอินเตอร์ในระบบของสิงคโปร์ (ชาวสิงคโปร์เป็นเจ้าของ) จึงมีอังกฤษ และจีน ส่วนซาแปะนั้นหมดฟอร์มไปเลย จากที่มีหลักการเรื่องเกี่ยวกับเด็กตอนนี้ก็ต้องมาแพ้ลูกสาวนี่แหละ ยิ่งมีลูกตอนแก่ด้วยแล้ว หลงลูกเป็นที่สุด

เนื่องในโอกาสวันไหว้ในเทศการตรุษจีน เรามาไหว้อามากัน ที่บ้านอากงเช่นทุกๆปี (ในภาพของไหวเก็บหมดแล้ว)


05 February 2008

Hansel and Gretel




4ก.พ. ที่ผ่านมา เราไปดูการแสดง ที่เรียกว่า “HIP” Opera เรื่อง Hansel and Gretel ซึ่งนำแสดงโดย เตย เล่นเป็น Hansel (เด็กผู้ชาย) (ก็เป็นธรรมดานะ ต้องเป็นที่ภูมิใจเสนอของพ่อแม่มาก เหมือนกับตอนที่เมฆ recilal นั่นแหละ ) ก็ต้องบอกว่าเป็นการเริ่มต้นที่สวยเลยสำหรับเด็ก Voice ปีหนึ่งอย่างเตยสำหรับการร้อง ส่วนการแสดงนั้นยังขัดเขินอยู่บ้างเพราะต้องแสดงท่าทางเป็นเด็กผู้ชาย อย่างไรก็ตามโดยรวมแล้ว น่าพอใจเลยล่ะ


04 February 2008

บริจาดของช่วยเด็กๆ

ที่มูลนิธิเด็ก (อยู่พุทธมณฑลสาย๔) มีเด็กๆจำนวนมากที่กำพร้า ด้อยโอกาส มาจากครอบครัวแตกแยก แม่นำขนม เงิน ข้าวสาร ไปบริจาคมาครั้งสองครั้งแล้ว ครั้งนี้เอาน้ำปลา(จากโรงงานของเราเองไปบริจาค 4 โหล และขนมปัง ABC อีก 2 ปี๊บ แม่สบายใจมากที่มาช่วยเด็กที่นี่ และแม่ก็จองคิวล่วงหน้าสำหรับวันที่ 23 มีนาคมด้วย เลี้ยงเด็กๆทั้งวัน ในโอกาสวันเกิดพ่อ ... ขอบคุณครับแม่

กราบหลวงตาบัว วัดป่าบ้านตาด

ขากลับก็เหมารถ สกายแลป ออกมาที่สนามบินเพื่อขึ้นเครื่องการบินไทยกลับกรุงเทพ ตอน 11.30 ถึงกรุงเทพประมาณ 12.40 น.


คุณยายพาเดินเข้ามาด้านในที่เมื่อ๒๐ปีก่อนโน้น คุณยายได้มาปฏิบัติธรรมที่นี่ สมัยนั้นไม่มีทางลาดปูนใหญ่ๆอย่างนี้ เหมือนอยู่ในป่าจริงๆ เพิงที่เห็นยายเรียกว่า กุฎ สำหรับนอน และปฏิบัติอยู่ตรงนั้น อันนี้นี่คุณยายภูมิใจเสนอที่สุด แต่ก็คิดดูนะว่า สมัยก่อนนั้นลำบากกว่าเดี๋ยวนี้แน่ น่ากลัวมาก ต้องอยู่คนเดียวด้วย
หลังจากจบกระบวนการแล้ว ขึ้นมาชั้นบนศาลา ที่ตอนนี้คงไม่มีกิจกรรมบนนี้แล้ว
วันนี้เป็นวันธรรมดาคนก็เลยน้อยหน่อย แต่ก็มีโต๊ะตั้งเป็นแถวยาว (เป็นระเบียบกว่าที่สวนแสงธรรม ไม่มีการแย่งกัน หลังจากตักบาตรเสร็จก็เข้าไปนั่งในศาลา หลวงตาให้พรแล้ว พระก็ฉันกัน เสร็จแล็วก็เทศต่อนิดหน่อย(ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องนัก เพราะระบบเสียงไม่ค่อยคุ้น) แม่ได้ถวายทองด้วย แล้วท่านก็ให้พรอีกรอบ เป็นอันจบ แต่กระบวนการนี้ไม่มีภาพเพราะเขามีป้ายห้ามถ่ายรูปไว้ ก็เลยไม่อยากแอบถ่าย เดี๋ยวเป็นบาป
คืนวันอาทิตย์ที่ 3ก.พ. แม่ชวนยาย พ่อ และเมือง ไปกราบหลวงตา ก่อนวันทำบุญเข้าสารข้างเปลืกประจำปี (ปีที่แล้วก็ไป) เดินทางรถทัวร์VIP 24ที่นั่ง ออกจากหมอชิต ตอน21.30น. ไปถึงวัดประมาณ 6.00น. ภาพนี้ถ่ายที่หน้าประตูวัด หลังจากล้างหน้าแปรงฟันแล้ว ก็พอดีหลวงตาเดินออกมาพอดี ก็เลยนั่งกราบที่หน้าประตูเลย บรรยากศเช้า ที่นี่สงบ และสดชื่นดีจัง

02 February 2008

Congratulations Witee


คืนวันที่ ๓๐ ม.ค.๕๑ ประกาศผลสอบตรงรอบ๒ เข้า ถาปัต บางมด (ตกแต่งภายใน) ภาคอินเตอร์ เมืองก็ทำสำเร็จแล้ว...ยินดีด้วยครับ..ฝีมือล้วนๆครับ (อ้อ..มีแม่เป็นเจ้ดันเรื่องขอสอบภาษาอังกฤษด้วย)
เราคงต้องจ่ายเงินก่อน 10,000 บาท เพื่อขึ้นทะเบียนนักศึกษา ภายในวันที่ ๘ กพ.นี้ แต่แม่เก๋ากว่า บอกว่าไม่อยากจ่าย ไม่ใช่เพราะเสียดายเงิน แต่เพราะยังมั่นใจว่าจะได้จุฬาแน่นอน ซึ่งพ่อก็มั่นใจอย่างนั้น แต่โลกนี้ มันก็ไม่มีอะไรแน่นอนใช่มั้ย เงินหนึ่งหมื่นบาทนี้เราต้องซื้อความอุ่นใจไว้ก่อนเพื่อประกันความเสี่ยง เหมือนกับสมัยของเมฆ เรามอบตัวโควต้าจุฬาซะก่อน ก่อนที่จะไปออดิชั่นสิงคโปร์ อย่างสบายใจ
อย่างไรก็ตาม ขอแสดงความยินดีกับเมืองอีกครั้งครับ เมืองได้แสดงแล้วล่ะครับว่า “เราทำได้”..
“ลูกเรานี่ ไม่ธรรมดาเนอะแม่”

นวดกดจุด

หลังแม่ได้คุยกับเพื่อนแม่ ว่านวดกดจุดก็ได้ผลดีเหมือนกันนะกับโรคหลายๆอย่าง แม่ก็นึกถึงพ่อที่ขายังชาๆอยู่ ประกอบกับอาการปวดกระดูกก้นขบของแม่กลับมาเป็นอีกครั้ง แม่จะกังวลมาก ว่ามันจะเกี่ยวกับเนื้อร้ายที่ตัดออกไปหรือเปล่า พ่อก็เลยบอกว่า ตอนนี้เราเล่นทุกแนวแล้ว บางอย่างมันมองไม่เห็น เพราะฉะนั้น “ลุย” เราก็เลยไปนวดกัน คิดซะว่านวดเอาสบายเท่านั้นแหละ อย่าไปหวังว่าจะหายหรอก น่าจะดีสำหรับแม่นะ อย่างน้อยก็จะได้พักสักชั่วโมง แล้วมีคนมาบีบๆนวดๆ น่าจะผ่อนคลายลงบ้าง สำหรับคนเครียดๆ อยากทำอะไรก็ทำเถอะนะ

01 February 2008

โครงการฝึกฝนกีตาร์ (อีกครั้ง)


หลังจากจบโครงการพอร์ตโฟลิโอแล้ว ได้พักไร้สาระมาแล้ว พ่อก็เสนอโครงการต่อให้เมืองเลย เช่น การเรียนโปรแกรมกราฟิคดีไซน์เพิ่มเติม พ่อบอกว่าเป็นการติดอาวุธทางปัญญาไว้ก่อน “รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม”
โครงการหัดขับรถ โครงการหัดเล่นกีตาร์อีกครั้ง ..( ซึ่งเมืองก็เห็นด้วย คราวนี้คงต่างกับคราวทำพอร์ตตรงที่พ่อจะไม่บังคับแล้ว) วันนี้เมืองไปซื้อสายกีตาร์มาเปลี่ยนทั้งชุด เพื่อเป็นการเริ่มต้นใหม่ ... เอา.. เอาจริงๆทีเถอะ.. คิดเถอะว่า ไอ้กระจอกงอกง่อย ในสลัมมันยังเล่นได้เลย แล้วเราทำไมจะเล่นให้เป็นบ้างไม่ได้
ส่วนข้างหลังแม่ก็กำลังเตรียมงานที่จะไปเสนอให้โครงการ Chatrium แม่ขยันจังเลย

โครงการปรับปรุงบ้าน ชั้นบน


เมื่อเมื่องเข้ามหาวิทยาลัยในปีนี้แล้ว ก็คงต้องมีห้องทำงานที่เป็นสัดส่วนซักหน่อย ไม่งั้นมีหวังรกทั้งบ้านแน่นอน พ่อรู้ว่าคนเรียนออกแบบนี่มันจำเป็นแค่ไหน ก็เลยจะยกห้องที่เคยเป็นห้องนอน เมฆ เมือง และห้องคอมตรงกลาง ให้เป็นห้องของเมืองทั้งหมด จะต่างจากเดิมก็ตรงที่ว่า คราวนี้เมืองต้องออกแบบเองแล้วล่ะ..นักออกแบบ


ส่วนห้องด้านนอกเป็นไอเดียใหม่ ที่แม่เริ่มหนาวทันที่ที่พ่อเสนอโปรเจค ที่พ่อจะปรับเป็นห้องทำงานของพ่อแม่ เพราะว่าห้องนั่งเล่นเราก็จะย้ายไปข้างล่างแล้วนี่ ตอนข้างบนก็เป็นแค่ทางผ่านขึ้นห้องนอนเท่านั้นเอง เมฆ เมืองคิดว่าไง ส่วนแม่พ่อรู้อยู่แล้วว่าแม่ต้องตอบว่า “อย่าเพิ่งเลย”