24 November 2009

คอนโด ชะอำ

ร้านบ๊ะหมี่ที่ตลาดชะอำกลางคืน ทุกครั้งที่ไปกินก็ให้รู้สึกอัศจรรย์ทุกทีที่เขาขายตั้งหลายอย่าง บ๊ะหมี่ วุ้นเส้น เล็กใหญ่ มาม่า หน้าหมู ปู ลูกชิ้นปลา ข้าวมันไก่ ข้าวมันไก่ทอด ข้าวหมูแดง ฯลฯ เยอะจริงๆและอร่อยด้วย

อากาศเริ่มหนาวเย็นแล้ว ลมหนาวแรงมากที่คอนโด พ่อแม่ชวนคุณตา คุณยายไปคอนโด แต่คุณยายไม่ไป แม่ก็เอารับดิว และน้อย กับรุณ (Maidบ้านน้าเดียร์) ไปด้วย ซึ่งทั้งสองไม่เคยเห็นทะเลเลยในชีวิต(เคยเห็นแต่ในหนัง) ไปค้างกันแค่คืนเดียวเท่านั้น

แม่มาเดินชายหาดก่อนออกไปกินข้าวเช้ามองดูตึกที่ทาสีเสร็จแล้ว ที่หลายคนบอกว่าสวย ในขณะที่หลายคนบอกไม่เห็นสวยเลย

Meeting เพื่อนช่างศิลป์

วันนี้มาเจอกันเพื่อพูดถึงเรื่องเก่าๆ กัน ก็สนุกไปอีกแบบ

ร่วม 30 ปีแล้วที่พ่อกับแม่ออกมาจากวิทยาลัยช่างศิลป์ แล้วก็แทบไม่ได้เจอใครอีกเลย อาจมีบางคนมาเรียนต่อที่ศิลปากรด้วยกันบ้าง แต่ก็นานเต็มที วันนี้มีนัดมาเจอกัน ก็เป็นความรู้สึกแปลก เพราะเราก็ใช่จะรักกัน เหมือนพวกเรียนประจำ แต่ทุกคนก็มักจะมีความรู้สึกว่าที่ช่างศิลป์เป็นที่ที่ทุกคนเริ่มมีอิสระ เป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากกว่าเด็กม.๔ สายสามัญ

19 November 2009

ลมหายใจ the Musical

ด้วยความที่เห็นว่าแม่เครียดมาตลอด ก็เลยหาละคอนเพลงให้ดู พ่อก็เลยโกหกแม่ว่าได้ตั๋วฟรี แม่จึงยอมไปดูด้วย (ถ้าซื้อก็คงไม่ยอม..พ่อคิดนะ) แต่แม่ก็รู้จนได้ และก็อดถามไม่ได้ว่าค่าตํ๋วเท่าไร!!!

เพลงบอยเราชอบกันอยู่แล้ว แต่เป็นเพราะเรานั่งใกล้ลำโพงหรือเปล่าก็ไม่ทราบ จะไม่รู้สึกเลยว่าฟังคนตรีสด ร้องสด แต่ก็มีความรู้สึกดีๆกลับบ้านนะ .. ความรักไง

ที่ดินหลังหมู่บ้าน

ที่ดินที่เราซื้อไว้หลังหมู่บ้าน เริ่มประกาศขายแล้ว แต่มีปัญหาตรงที่ว่าความเห็นแก่ตัวของคนข้างเคียง เป็นคนทำขนส่งสินค้าไปต่างจังหวัดที่อยู่ด้านหลังที่ โดยกั้นสังกะสีปิดมาจนถึงแนวกำแพง ซึ่งทำให้ไม่น่าพิศมัยเลยสำหรับผู้ที่คิดจะมาซื้อเรา

คุณแม่เราใช้ความพยายามอย่างมากที่จะตามจนพบเจ้าของที่ และติดต่อกับผู้เช่าที่ทำการขนส่งนี้ ก็ยังตกลงกันไม่ได้ จะเอาเรื่องกันทางกฏหมายก็คงไม่สนุกแน่…คงต้องมีการเจรจาต่อไป

ให้ปลาหนึ่งตัว กินได้หนึ่งวัน สอนให้จับปลา มีปลากินตลอดไป

ก็ต้องรอดูผลต่อไปว่าเมืองจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือเปล่า หรือพ่อหวังมากเกินไป

วันหนึ่งพ่อขับรถผ่านไปเจอเต้นท์รถที่นำเข้ารถเล็ก(เก่า)จากญี่ปุ่นมาขาย มีมากมายหลายแบบ ซึ่งก็เท่พอสมควรสำหรับวัยรุ่นที่ต้องการความแตกต่าง ก็เลยเกิดความคิดว่าจะมาสร้างเป็นแรงบันดาลใจให้เมืองอีกครั้ง เมื่อทำงานหาเงินเองได้แล้วการมีรถก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย โดยเฉพาะการนำรถนั้นมาใช้ทำเงิน ที่สำคัญคือเอาไว้โชว์หญิงได้ด้วย

พ่อพยายามจะสร้างแรงบันดาลใจหลายๆอย่างเพื่อให้เมืองใช้ความรู้ความสามารถทางการออกแบบมาทำมาหากิน เรียนรู้การค้าขายอย่างครบวงจร โดยพ่อเริ่มวางแนวทางในการเริ่มต้น และคุยให้ฟัง ก็ดูเหมือนกับจะสนใจ…แต่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไป

11 November 2009

ก๋วยเตี๋ยวสมพงษ์

วันที่ เมือง ไปเรียนสายก็เป็นวันที่เราได้ไปกินข้าวด้วยกัน ร้านก๋วยเตี๋ยวสมพงษ์เป็นร้านที่เราชอบกัน กินกันละ ๒ ชาม ด้วยความพิศวงว่า เป็นไปได้ไงที่มันอร่อยแบบไม่ต้องปรุงกันทีเดียวนะ

05 November 2009

the parkland 2

นี่ก็เป็นอีกมุมหนึ่งของห้อง 35 ตารางเมตรที่เราจองไว้ และหวังว่าเราจะปล่อยได้ในราคาที่ได้กำไรนะ
ห้องตัวอย่างสำหรับคนช่างฝันว่าจะมาอยู่เอง แต่สำหรับพวกเก็งกำไร แทบไม่สนเลย

มาครั้งนี้ไม่มีห้องสตูดิโอ มีแต่แบบ 1 ห้องนอนเล็กที่สุด เราก็ปรึกษากัน ภายในไม่ถึงชั่วโมงเราก็จองไป 2 ยูนิต มูลค่า 4.5 ล้านบาท (จองไว้เพียง 1หมื่นบาท) ก็ให้มานึกถึงคำที่เขาเปลยเอาไว้ว่า ซื้อคอนโดนั้น ง่ายกว่าซื้อกางเกงซะอีก…เห็นจะจริง

ในภาพจะเห็นห้องที่เราจองไว้ ด้วยเหตุผลแปลกๆนะ เช่นชั้น๙ ขายง่าย วิวสวน ส่วนชั้น 15เป็นวิวสระน้ำ ห้องไหนน่าจะขายต่อได้ไม่ยากนะ...

ลูกค้ากลุ่มแรกมากันแต่เช้าเช่นเรา ต่างปรึกษากันเงียบๆแบบสงวนท่าที

ด้วยความที่คุณแม่เป็นที่รักของเซลขายคอนโด ฉะนั้นเมื่อ Parkland เปิดโครงการใหม่ จึงเชิญแม่ไปเป็นกลุ่มแรกที่เปิดจอง ในโครงการก่อนหน้านี้เปิดจองแล้วก็หมดไปในพริบตาทั้งตึก..เวอร์ไปหรือเปล่า เอาแค่ในไม่กี่วันดีกว่า แล้วก็มีการขายต่อกันสะพัดมาก ซึ่งก็ก็มีอยู่ 2 ยูนิต ที่เคยขึ้นบล็อกมาก่อนแล้ว

ไปกราบหลวงตาบัว

รถสกายแล็ปที่จะส่งเราไปสนามบิน

หลายคนก็พยายามเข้าไปนั่งใกล้ๆท่าน แต่เราก็สมัครใจจะดูจากทีวี ที่ชัดกว่า
ตักบาตรเสร็จเราก็กำลังจะเข้าไปกราบหลวงตาบัวกัน คุณแม่ก็สบายใจขึ้นที่เมื่อเช้าได้กราบหลวงตาบัวขณะออกมาตอนเช้า และได้เล่าเรื่องพระคุณตาที่อาพาตให้หลวงตาฟัง

ในค่ำวันเดียวกัน พ่อ แม่ และคุณยายก็ออกเดินทางไปวัดป่าบ้านตาดกัน วิธีเหมือนกับที่เราเคยไปกัน คือไปรถทัวร์เที่ยวกลางคืน ไปเช้าที่อุดร เข้าวัด ตักบาตร กราบหลวงตาบัว รับพร แล้วจึงกลับด้วยการบินไทยเที่ยว 11.30 น.

ภาพหน้าวัดมีป้ายองค์เจทขนาดใหญ่ ทำให้ความรู้สึกเป็นวัดป่าลดลงกว่าเดิม แต่ก็นี่แหละคงเป็นฝีมือลูกศิษย์ทำมาถวาย

ตักบาตรพระใหม่

ก่อนจะรับพระหลวงตาออกมาหาหมอ (เนื่องจากเมื่อคืนอาเจียรหลายหน) เราได้ซื้อปลาช่อนจากตลาด ก่อนที่จะถูกทุบหัวให้ตายคาเขียงออกมา 4 ตัว เพื่อมาให้พระหลวงตาปล่อยให้ไปสู่อิสรภาพ หรือเรียกว่า ต่อชีวิตให้ปลานั้นก็ได้ ซึ่งเราทุกคนก็รู้สึกดีที่ทำเช่นนั้นร่วมกัน

อาคาร 4 ชั้นนี้เป็นกุฏิพระ มีลิฟท์ด้วย ทุกอย่างใหม่ ห้องน้ำทันสมัยชั้นบนก็แบ่งเป็นห้องๆ สำหรับพระได้ปฏิบัติธรรมตามกิจอันควร ดูแล้ก็ให้นึกเปรียบเทียบกับวันนาป่าพงทุกครั้งเชียว


หลังจากบวชแล้ว หนึ่งในกิจของสงฆ์ก็คือ การบิณฑบาตร แต่สำหรับพระใหม่นั้น ท่านเจ้าอาวาสยังไม่อนุญาตให้ออกเพราะ ไหนจะการห่มจีวร การให้พร ฯลฯ ซึ่งรอให้พร้อมเสียก่อน จนวันนี้จึงเป็นวันแรกของการออกบิณฑบาตร คุณยายก็ตื่นเต้นเช่นเดิม เราจึงมารอตักบาตรอยู่หน้าวัดแต่เช้ามืด

02 November 2009

พระหลวงตา และพระน้าอู๋



คุณยายเป็นคนที่ตื่นเต้นที่สุด ภาพนี้ถ่ายหลังจากที่ได้พูดโทรศัพท์กับเมฆได้ครู่หนึ่ง

พระหลวงตา และพระน้าอู๋ กลับมาเยี่ยม และเทศน์ให้โยมแม่ (คุณยาย) ซึ่งก็คงเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกัน ก็มีการเตรียมการเลี้ยงเพลด้วย โดยนิมนต์พระมาอีกรูปหนึ่ง ที่ท่นก็ถึอปฏิบัติอย่างพระป่ามาก่อนแล้ว และมาจำพรรษาอยู่ด้วยกันที่วัด

โรงพิมพ์ซาแปะ

วันเสาร์นี้เมืองไม่ได้ไปไหน(ในรอบเดือน) เราก็เลยได้ไปกินข้าวกัน ไปดูงานกับแม่ แม่ไปดูงานเย็บกระเป๋าที่โรงงาน และเลยไปดูงานที่โรงพิมพ์ ซาแปะก็เลยพาเมืองดูงานโรงพิมพ์ ซึ่งนับเป็นโอกาสที่ดีมากหากได้มาฝึกงานที่นี่ด้วยในวันหนึ่ง เพราะจะมีซักกี่คนกันเชียวที่จะได้เห็นกระบวนการผลิตเช่นนี้

งาานแต่งงานพี่บิ๊ก

หยี่แปะเป็นประธานฝ่ายเจ้าบ่าว ที่ต้องขึ้นไปพูดบนเวที ซึ่งก็พูดได้ดีด้วย ในภาพนี้กำลังรับเค็กแต่งงานจากเจ้าบ่าว และเจ้าสาว

งานแต่งานพี่บิ๊ก ที่เป็นญาติสนิทของบ้านเราตั้งแต่รุ่นพ่อของอากงแล้ว มาถึงอากง และรุ่นพ่อ ที่สำคัญก็คือ เราใช้นามสกุล วิสุทธิ์อัมพร เหมือนกัน เรียกว่าไม่ว่าเป็นงานอะไร พ่อป่วย หรือแม่ป่วย ทั้งสองบ้านนี้ก็ยังไปมาหาสู่กันเสมอ

ไอเดียบ้าน / สระว่ายน้ำที่แกลเลอรี่ลงถาวร

การใช้หญ้าเทียมก็เป็นไอเดียที่ดีมาก ที่น่าจะเอาไปปรับใช้ได้

วันนี้ก็เลยไปปรึกษาลุงถาวร เพราะมีประสบการณ์สระว่ายน้ำมาแล้ว และคงเลือกสรรมาอย่างดีแล้ว รวมทั้งตัวบ้านก็เรียบง่ายสวยแบบ Minimalism ซึ่งอาจนำมาปรับใช้ได้

เพราะต้องออกแบบบ้านให้พี่หมูที่อาจมีเงื่อนไขใหม่เพิ่มเข้ามาคือ เดิมจะเพียงปรับปรุงชั้นบนเป็นเรือนหอ อาจเปลี่นเป็นซื้อบ้านเก้าที่ใกล้ๆบ้านเดิมมาปรับปรุงใหม่ และยังปรึกษากันต่อว่าจะเพิ่มขึ้นสระว่ายน้ำ และสนามเทนนิส(Knock board)เข้าไปด้วยได้หรือไม่

25 October 2009

Luminox for papa

พ่อซื้อนาฬิกาเรือนใหม่ให้ตัวเอง (ในราคาเท่ากับ iPhone ของแม่) แม่บอกว่ามันหนักมากนะ เหมือนยกน้ำหนักเลย แต่คนอยากได้ก็บอกว่า ไม่เป็นไร รุ่นนี้เป็นรุ่น Limited Edition ผลิตมา 500 เรือน ก็ไม่มีความหมายอะไรหรอก เพราะผมชอบ Cronograph เท่านั้นเอง

iPhone for Mama

เพราะโทรศัพท์เก่าที่แม่ใช้อยู่นั้นเก่าเหลือเกิน พ่อก็เลยจัด iPhone 3Gs ใหม่ล่าสุดมาให้แม่ หวังว่าเป็นเครื่องช่วยให้แม่สะดวกขึ้น และเป็นการฝึกฝนให้ตัวเองให้ทันไฮเทคบ้าง โดยพ่อเอาบทสวดมนต์มาใส่ใน ipod ในContactก็ใส่รูปภาพให้ด้วย ดูอุณหภูมิที่pittsburgh ...ฯลฯมาล่อให้เธอสนใจ และใช้ประโยชน์ได้มากขึ้นในวันหนึ่ง

Photo Diary

แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่ค่อยมีใครสนใจ ทั้งแม่และเมือง ก็เปิดดูผ่านๆ อาจเพราะเหตุการณ์เพิ่งผ่านไปไม่นาน พ่อเริ่มทำตั้งแต่ปี 2004 (ปีที่เมฆไปเรียนสิงคโปร์) จนถึงปี 2008 และกำลังทำย้อนหลังจากปี 2003ลงไปเรื่อยๆต่อไป แม้ว่าแม่จะรู้สึกว่าพ่อหมกมุ่นมากไปก็ตาม
ตัวอย่างภายในเล่ม เพราะเรื่องหลายๆเรื่องพ่อก็ถ่ายไว้ แต่ก็ไม่เคยพิมพ์ออกมาดู ครั้งนี้หลายๆรูปเราก็ไม่เคยเห็น และหลายรูปเราก็เจนตา
หน้าปกของแต่ละเล่มๆละ 1ปี โดยใช้ภาพเป็นตัวเล่าเรื่องตามลำดับเป็นแต่ละเดือนไป
ใส่ในแฟ้มขนาดA3ซึ่งใหญ่สะใจมาก แต่ก็หนักมากเช่นกัน
จากที่ทำอัลบั้มเกาหลี และต่อด้วยญี่ปุ่น ก็พบว่าเวลาเราดูแล้วก็สนุกดี เป็นเรื่องที่ดีมากที่เราจะระลึกถึงความสุข พ่อก็เลยค้นรูปเก่าๆขึ้นมาทำเป็นอัลบั้มใหม่ ให้ชื่อว่า Photo Diary (ภาพถ่ายบันทึก) ซึ่งพ่อรู้สึกนะ ว่าภูมิใจที่ได้ทำมัน แม้จะใช้เวลาพอสมควรเชียว และเชื่อว่าผลที่ได้มันคุ้มค่าที่สุด

พีธีบวช

เมื่อเสร็จพิธีก็มีการทำบุญกับพระใหม่ ก่อนขึ้นกุฏิ ซึ่งดีมาก ใหม่ สะอาดมาก
และก็เป็นพระ เป็นเรื่องนี่เกิดขึ้นไม่ง่ายนัก ที่จะได้เห็นพ่อลูกบวชพร้อมๆกัน
ขณะนี้ก็เป็นนาคแล้วทั้งคู่
ลานที่ทำพิธีโกนผม
ก็เป็นพิธีที่ซาบซึ้งอีกตอน ก็คือการขอขมาต่อพ่อแม่ และล้างเท้าให้พ่อแม่ด้วย
คุณตาโกนเสร็จก่อน แล้วมาถึงคิวน้าอู๋
พ่อ แม่จะเป็นคนตัดผมปอยแรก โดยมีดิวทำหน้าที่อย่างแข้งขัน ส่วนคุณตาเป็นผู้อาวุโสแล้ว ไม่ต้องมีใครมาตัดให้ พระก็โกนได้ทันที
น้าอู๋ และคุณตา ตกลงใจจะบวชที่วัดปุรณาวาส (ใก้ลกับม.มหิดล) ทีแรกก็ไม่นึกจะเป็นวัดใหญ่ ไม่นึกจะต้องมีแขก แต่สุดท้ายก็มีคนราว 60คนได้
เป็นงานบวชที่มีช่างภาพหลายคน(มากกว่าในรูปนี้อีก)ในภาพ ผู้หญิงกระโปรงเทาที่นั่งติดกับแม่ เป็นแฟนของน้าอู๋