26 October 2008

อาทิตย์ที่ 26ต.ค.

นัดมาทานข้าวกันที่ ร่มไม้ชายคา เรื่องที่โต๊ะผู้ใหญ่พูดคุย แรกๆก็เรื่องเศรษฐกิจ ผลกระทบจากวิกฤตจากอเมริกา แต่พอคุณแม่ตามมาเท่านั้น หัวข้อก็เป็นเรื่องพันธมิตรล้วนๆ ก็เพลินไปอีกแบบ ส่วนโต๊ะวัยรุ่นไม่รู้ว่าคุยเรื่องอะไรกันบ้าง คงต้องให้เมืองเป็นผู้ตอบ

เริ่มติดตั้งงานที่ชาเทรี่ยม งวดที่2

วันที่ 26ต.ค. เริ่มติดตั้งงานงวดที่2เป็นวันแรก ต้องติดในห้องต่างๆ 7 ชั้นๆละ 14 ห้องๆละประมาณ4รูป รวมแล้วก็ 400กว่าชิ้น ที่แม่จัดการเพียงคนเดียว สั่งงานคนทำ มัดจำเงิน จ่ายเงินงวดให้คนทำ สั่งทำกรอบ เปิกเงิน นัดหมายการส่ง ส่งให้เข้าแต่ละห้อง นัดคนรับของ นัดคนติดตั้ง มีการเลื่อนนัด เปลี่ยนแปลงชั้น ...สารพัดปัญหา จริงๆ ปวดหัวบ้าง สับสนบ้าง แต่ไม่เคยปล่อย พ่อไม่ได้ช่วยอะไรมาก แค่ทำเอกสารตามที่แม่สั่ง แล้วที่สำคัญคือ อย่าหาเรื่องแม่อีกเท่านั้นแหละ
คนขวาคือหัวหน้างานติดตั้ง จบศิลปากรเป็นอาจารย์พิเศษด้วย แต่ก็รับงานนอกไปด้วย

Yahoo & Google

น่าจะเป็นอีกรอบหนึ่งที่เราสังเกตุเห็นว่า Google พยายามจะขึ้น คุณYahoo ด้วยความกังวลของคุณแม่ ไม่อยากให้มีการเกิด(ลูก)อีก มันจะเป็นทุกข์กับทุกๆชีวิต ก็เลยแยกYahoo ขึ้นมาไว้ข้างบนบ้าน ส่วนGoogle ยังคงอยู่ข้างล่าง ซึ่งเป็นการทรมานมาก คืนแรกนั้น Google ทั้งเห่าทั้งหอนเรียกเกือบทั้งคืน แทบจะทลายรั้วกั้นออกมาให้ได้ คืนต่อมาน้อยลงอาจเพราะต้องทำใจ ส่วน Yahoo นั้นดูเฉยๆ น่าจะเป็นเพราะตัวเมียมีหน้าที่เพียงปล่อยกลิ่นในช่วงพร้อมผสมพันธ์ ส่วนตัวผู้นั้นพอได้กลิ่น ก็หื่นจัดทันที แต่ก็สงสารมันทั้งคูนั่นแหละที่อยู่ๆก็ถูกจับแยกออก แต่ก็หวังนะว่าเราคงจะแยกได้ทัน ไม่ใช่เสร็จกันตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วละก็... รอคลอกใหม่ได้เลย

เช้าวันหนึ่ง

เช้าวันหนึ่ง เมืองนัดจะไปเรียนพิเศษ แคลคูลัส ด้วยความฮึด! ไม่ยอมถอนวิชานี้ ก็เป็นเรื่องน่ายินดีนะ ที่คิดจะสู้แบบนี้ แต่แค่คิดอย่างเดียวก็ยังไม่พอ ต้องปฏิบัติด้วย มาเรียนพิเศษก็ยังไม่พอ ต้องฝึกฝนอีก สู้ๆนะครับ เวลาที่มันผ่านไปแล้ว เราก็จะไม่จะต้องกลับมาเสียใจ จริงมั้ย เช้านี้ 7.30น. แม่ก็มาส่งที่ตึกซีพี ถนนสีลม ทานอาหารเช้าที่ร้านแม็ค 24 ชม. พอแยกกันแล้วแม่ก็นั่งรถไฟฟ้าต่อไปจตุจักรเพื่อไปดูของสำหรับทำของชำร่วยให้ป้าสาต่อ ด้วยความสนุกสนาน

20 October 2008

งานBIG

งานBIG เป็นงานประจำปีที่แม่ไม่เคยพลาด ปีนี้ก็เช่นกัน วันเสาร์แม่ก็ไปมารอบหนึ่งแล้ว แต่แม่บอกว่า ปีนี้ไม่ค่อยตื่นเต้น เดินไปไม่เท่าไรก็ไม่ไหวแล้ว กลับดีกว่า วันรุ่งขึ้นเมืองก็คิดว่าจะไปบ้าง แม่ก็แสดงว่าไม่ค่อยอยากไป พ่อก็ย้ำอีกครั้งว่า “วันนี้ไม่ต้องไปก็ได้นี่ ไม่ต้องไปเปลี่ยนของที่ซื้อมาเมื่อวันเสาร์ด้วย” แต่สุดท้ายเย็นนั้นเราก็ต้องไปกันอีกรอบ แต่ช่วงท้ายก็มีสมาชิกใหม่คือ ปุ้น ขากลับก็เลยมาแวะทานโจ๊กร่วมใจ
ชื่อร้านนี่ก็แปลกนะมีผลต่อจิตใจจริงๆ แม่จะต้องเจาะจงกินร้านนี้แหละ ฟังชื่อคล้ายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโจ้กโดยเฉพาะเลย เช่น โจ้กกองปราบ..โจ้กสามย่าน เป็นต้น

มะพร้าว

วันอาทิตย์ ทุกคนอยู่ย้านกัน ยายก็เกิดอยากทานสเต็ก เราก็พาไปทานกันที่ BKK แถวมหิดล ทานเสร็จก็มาซื้อผลไม้ที่ตลาด ระหว่างรอพ่อก็ไปซื้อมะพร้าวเผามาลูกหนึ่ง เฉาะเปิดฝาแล้วก็มาแบ่งกันทานกับเมือง ทานน้ำมะพร้าวหมดแล้ว เมืองก็ถามว่า “ไม่เสียดายเนื้อมะพร้าวเหรอ จะทิ้งแล้ว” พ่อก็ตอบว่า “พ่อคิดว่าพ่อซื้อน้ำมะพร้าวกันในราคา 10บาท ผมทานเนื้อไม่ได้ก็เลยไม่เสียดาย แต่ถ้าทานได้ก็เป็นกำไร” เมืองก็เลยบอกว่ามันเป็นเพียงวิธีคิดนะ ว่าแล้วก็เริ่มควักเนื้อกินต่อไป... อร่อย..กำไรด้วย
คนเรานะจะมีความสุขหรือทุกข์ก็อยู่ที่วิธีคิดนี่แหละนะ ที่เอามาลงบล็อกนี่ไม่ได้จะคิดว่าเป็นคำคมอะไรนะ เพียงแต่คุยกับเมืองว่า พ่อจะเริ่มบันทึกเรื่องที่เราคิด เรื่องที่เราคุยเอาไว้ เผื่อวันหนึ่งอาจจะเอามารวมเล่มขายบ้าง

18 October 2008

งานแต่งงาน

คุณภัทราภา เป็นลูกสาวของเจ้านายพ่อ (คุณศิวะพร) แต่งงานที่โบสถ์อัสสัมชัญ ตามพิธีคริสต์ พ่อก็เข้าไปร่วมงานด้วย ก็สนุกดี เพราะไม่เคยเห็นงานแต่งแบบคริสต์นอกจากในหนัง ตอนท้ายของพิธีก็ต้องนั่งรถออกไป จึงนำรถอัลฟ่าโรมีโอที่คุณพ่อสะสมไว้ ซึ่งเท่น่าดู ถ้าเอาเบนซ์มารับก็คงจะงั้นๆแหละ ใครๆก็มีได้ ส่วนงานกลางคืนจัดที่โรงแรมโอเรียนเตล ซึ่งแขกแน่นมาก อ้อ..เพิ่งทราบว่า เจ้าบ่าวเป็นอาจารย์ที่ถาปัตย์จุฬาด้วย แต่คงอยู่ภาคปกติมากกว่า

บำรุงรักษา

ด้วยหลายสาเหตุ เช่น ต้องย้ายเครื่องซักผ้า ต่อท่อน้ำสำหรับเครื่องซักผ้าใหม่ ตัดต้นไม้ ทำเครื่องป้องกันนกพิราบ แขวนรูป..ฯลฯ จึงขอให้ช่างมาช่วยงาน 4 ตน ตะลุยงานเลย ซ่อมโน่นซ่อมนี่ตามรายการ เช่นแขวนรูปใหม่ ตัดต้นไม้(ซะเหี้ยนเลย) อันที่จริงพ่อแม่ก็ไม่ได้สั่งให้ตัดโล้นแบบนี้หรอก แต่คุณยายคงแอบมาสั่ง แต่ก็เข้าใจได้นะ เพราะบริเวณห้องคุณยายมีนกพิราบพอสมควร ซึ่งคงจะสร้างความรำคาญพอดูในเวลากลางคืน ก็เลยตัดมันให้หมดซะเลย

เรื่องต้นไม้นี่หาความพอดียากเนอะ ต้นไม้ทึบก็ไม่มีแดด นกก็มาอาศัย แต่ก็สวย อบอุ่น ต้นไม้โล้นๆ นกอาจย้ายออก(ยังไม่แน่) แต่ความร้อนจากแสงแดดก็พอฆ่าเชื้อโรค+กลิ่นฉี่หมาได้พอสมควร แต่ก็ไม่สวย ตัดแต่งบ่อยๆก็หาคนตัดไม่ค่อยจะได้ ...เยอะแยะไปหมด เราก็คิดนะตามทฤษฎีมันก็เหมือนการตัดผมของเรา ต้องตัดเพื่อรักษาทรงที่ดีเอาไว้ ไม่ใช่ตัดให้สั้น แล้วเผื่อยาว รอให้ยาวๆจนรกแล้วค่อยตัด ...เราก็คงต้องหาความพอดีต่อไป
แขวนภาพใหม่ ภาพเรือลอยในทะเล เขียนด้วยสีอาคริลิค พ่อว่าฝีมือเขาดี ในส่วนที่เนี๊ยบเขาก็เนี๊ยบดีเช่นตรงเรือ ในส่วนที่ต้องใช้ชั้นเชิง ฝีมือ และการตัดสินใจก็ทำได้ดีเช่น ผิวน้ำ ที่ทิ้งฝีแปรงไว้ ดูแล้วคล้ายตัวเราก็โยกเยกไปตามผิวน้ำที่ไม่นิ่งไปด้วย ภาพทางขวาเป็นศิลปะไทย แบบประเพณี เขียนละเอียด ศิลบปินคนนี้ได้รับรางวัลเหรียญทองจากการประกวดจิตรกรรมบัวหลวงมา 2 ปีซ้อนนี่เอง ส่วนภาพข้างล่างเป็นภาพพิมพ์ที่เคยติดในห้องเมืองเก่า ขณะนี้เป็นศิลปินแห่งชาติไปแล้วล่ะ
รูปนี้ถ่ายเมื่อ 2 ปีก่อนจากที่เขาแสดงนิทรรศการ เพื่อดูภาพขยาย รูปนี้พ่อก็เคยส่งให้เมืองดูขณะที่อยู่อิตาลีมาแล้ว เพื่อดูเทคนิคการเขียน

ทอดกฐิน

จริงๆแล้วที่วัดนาป่าพงจะมีงานทอดกฐินในวันที่ 19 ตค. ทั้งๆที่ทางวัดก็ไม่ได้มีจุดประสงค์ให้เป็นการใหญ่โต (ตามแนวของพระอาจารย์อยู่แล้ว) แม่กับพ่อก็เชื่อว่าคนคงจะเยอะอยู่ดี จึงไปซะก่อนดีกว่า (ไปกันวันศุกร์ที่17ต.ค.) ก็ดีเหลือเกินที่ไม่มีใครเลย แล้วพระอาจารย์ก็ว่างพอดี พ่อกับแม่ก็เลยมีโอกาสถามคำถามจนได้คำตอบชัดเจนมาก แล้วจะเล่าให้ฟังนะ
ในภาพนี้ แม่กำลังขียนใบอนุโมทนาบัตรอยู่

09 October 2008

เมือง in พันธมิตร


หลังจากที่แม่พยายามชักจูงให้เมืองไปพันธมิตรซักหน ไปอยู่ในบรรยากาศจริงๆ สักครั้ง ส่วนหลังจากนั้นจะไปอีกหรือไม่ก็ไม่ว่าอะไร

07 October 2008

พันธมิตร

บนเวทีคุณอัญชลี พิธีกรหญิงที่พูดได้เร้าใจมาก ตรึงคนฟังเป็นชั่วโมงๆได้เลย
ใกล้ๆเที่ยงพ่อก็ขอแยกตัวกลับก่อน เพราะมีงานค้างที่สำคัญมาก ในตอนเย็น ก็มีป้าหมอมาสมทบด้วย ประมาณ 2 ทุ่มพ่อก็ไปรับแม่กลับด้วยความอิดโรยเพราะสภาพอากาศ และสถานการณ์ที่เร่งอารมณ์ตลอดเวลา แต่ในใจนั้นก็อิ่มใจที่ได้ออกไปทำหน้าที่ของพลเมืองที่ดีแล้ว
ห้องสุขาของชายหญิง มีอยู่หลายจุด แต่ก็ยังไม่พอ
แม่มีอุปกรณ์ครบมือ ในกระเป๋าผ้าสะพายนั้น มีบัตรประชาชน เงินเล็กน้อย น้ำดื่ม ผ้าขนหนู เสื้อกันฝน พัด และมือตบขนาดจิ๋ว... ฯลฯ เครื่องแต่งกายรัดกุม รองเท้าพร้อมวิ่ง(กรณีฉุกเฉิน) ผ้าโพกหัวกันแดดร้อน แว่นกันแดดซื้อในงาน (ไฮโซมาก อันละ50.-) และก็มาพบกับป้าแจ๊ดตามที่นัดไว้
เสียงมือตบ และเสียงโห่ร้องของผู้ร่วมชุมนุมเป็นไปตามจังหวะจะโคนของผู้ปราศัย เร้าอารมณ์จริงๆ
ห้องอาบน้ำเฉพาะกิจ และเต้นท์นอนของผู้ที่พักค้างแรม น่ายกย่องจริงๆ ทั้งๆที่ไม่มีความสะดวกสบายใดๆเลย แต่คนเหล่านี้ก็มากัน ทำกันอย่างเต็มที่ โดยไม่มีใครจ้างวานเลยที่แรกตั้งใจจะเรียกแท็กซี่ไปสภาเลย แต่แม่คิดว่าอาจอันตรายเกินไป และก็นัดป้าแจ๊ดไว้ที่ทำเนียบด้วย ก็เลยมาแวะทำเนียบก่อน เป็นเรื่องน่าแปลกใจจริง ถ้าคนไม่มาก็ไม่รู้หรอกว่าขอบริจาคที่หลั่งไหลมานั้นมีมากันขนาดไหน น้ำดื่ม อาหาร ผ้าขนหนู(ใช้ชุบน้ำกันแก๊สน้ำตา) ผ้าปิดจมูก...ฯลฯ ทุกคนที่มากก็ล้วนมีน้ำใจต่อกันค่ำวันจันทร์ที่ 6 ต.ค. พันธมิตรเคลื่อนฝูงชนไปปิดล้อมสภาผู้แทน เพื่อไม่ให้รัฐบาลได้เข้าไปแถลงนโยบาย ทันทีที่แม่รู้เรื่องก็อยากไปร่วมด้วยเป็นอย่างมาก แต่พ่อบอกว่าไปพรุ่งนี้เถอะ พอเช้ามืดวันที่ 7 ก็ทราบข่าวการยิงแก๊สน้ำตาแล้ว เริ่มสลายผู้ชุมนุมที่ปิดล้อมสภากันแล้ว แม่กับพ่อก็ไปกันเลย เพื่อไปร่วมแสดงพลังให้เห็นถึงจำนวนของฝ่ายพันธมิตรนะ

เลือกตั้งผู้ว่า กทม.

วันอาทิตย์ที่ 5 ตค ที่ผ่านมา เมืองได้สิทธิเลือกตั้งเป็นครั้งแรก ก็ออกไปใช้สิทธิ์กับแม่ที่หน่วยเลือกตั้งที่สโมสร ป.ผาสุก