อีกบรรยากาศในเวลากลางคืน

บรรยากาศตอนกลางคืน แม่เค้าว่าพ่อว่า "บ้าไฟ"

ห้องใหม่ ใน บ้านเก่า

ออกมาดูข้งนอกดูบ้าง โล่ง สบาย เรียบร้อยขึ้นเยอะเลย มีม้านั่งลอยอยู่เหนือน้ำด้วยที่ภูมใจเสนอ อาจมองเห็นเก้าอีเยอะหน่อย เพราะยังไม่ได้เก็บเข้าที่ในเช้านี้ แต่ที่สำคัญคือการจัดการระบบกรองน้ำใหม่ ใช้เงินไปหลายหมื่นบาทเชียว แล้วก็ได้น้ำใสแจ๋วเลย ปลาน่าจะมีความสุขที่สุดนะ

ห้องน้ำสว่างเพราะติดหลังคาใสบางส่วน แต่ก็ทำให้ร้อนพอสมควรเลยในเวลากลางวัน ในห้องนี้มีของจาก IKEA หลายชิ้นเลย ซื้อเอาไว้เป็นปีแล้วเมื่อตอนลดราคา

โต๊ะทำงานเล็กๆ อยู่ห้าตู้เสือผ้า หรือตู้เก็บของ บานเปิดกระจกเงาก็ช่วยให้แลดูกว้างยิ่งขึ้น เมื่อวันก่อนมีเพื่อนๆเมืองมากัน เราก็ต้องเอาของโน่น นี่ มาวางซะหน่อย ให้ดูเป็นธรรมชาติ โต๊ะนั่นพ่อทำเอง ส่วนบอร์เหล็กสีขาวข้างๆก็มาจาก IKEAตามเคย

ห้องนอนเปิดบริสุทธิ์โดยคุณเมืองเรียบร้อยไปแล้ว แต่ก็ตกลงกันว่าอยากให้ห้องนี้เป็นห้องกลางๆ ใครๆก็มานอนได้โดยไม่รู้สึกว่าเป็นห้องของใคร เผือคุณยายจะมานอนพักเล่นบ้าง

มองกลับเข้ามาอีกที ประตูที่เห็นคือห้อน้ำ

ออกมาดูข้างนอกบ้าง ริมรั้วด้านบนทำใหม่ รื้อสังกะสีเก่าออก ทางเดินสู่บ่อน้ำ

มุมนี้เป็นชุดครัวที่ย้ายมาจากหัวหิน

มองออกไปอีกมุม รูปภาพและม้านั่งที่หลายคนบอกว่าไม่เข้ากับบ้านนี้เลย ม้านั่งนั้นมาจากเวียดนาม ราคาถูกใช้ได้เลย ประตูกระจกเงานั่นเป็นห้องนอนสำรองไว้ ให้ใครก็ได้

มองกลับออกไปอีกมุมมุมโต๊ะทานข้าวขนาดใหญ่ ที่มานั่งทำงานกันก็ได้ เพราะใหญ่ดี มองเห็นเครืองออกกำลังกายอันใหม่(แอร์วอล์ค) แม่จะได้ออกกำลังโดยไม่มีส่วนใดกระแทกพื้นเหมือนวิ่ง โคมไฟและชั้นวางรูปอันใหม่ตัวชั้นมาจากikea (อีกแล้ว) ตัวรูปสามารถปรับเลี่ยนไปได้เรื่อยๆ ส่วนตู้ข้างล่างสำหรับใชว์ของเล่นของแม่ ไปสั่งทำมาจากโฮมเวอร์ค อ้อ..เกือบลืมเก้าอี้ที่แม่นั่งอยู่นั่น เป็นของแถมจากโฮมโปร เมื่อซื้อครบ ๒๕,๐๐๐ บาท

มุมนี้มองออกไปอีกด้านหนึ่ง (เป็นลานไม้) ทีเด็ดที่ทุกคนอิจฉาก็คือใต้ม้านั่งยาวนั้นเป็นตู้เก็บรองเท้า ที่ผู้หญิงทุกคนอยากจะมี โปรดสังเกตุโคมไฟที่เพดาน มาจาก ikea อีกแล้วครับท่าน เป็นไฟรางแบบดัดเป็นเส้นโค้ง ซื้อมาตอนลดราคาตั้งแต่ปีที่แล้วโน่น

มุมแรกนี้เป็นมุม ทีวี ฟังเพลง ตู้หนังสือ นั่งเล่น ทีวีพลาสม่า ๔๒ นิ้วที่แม่ตัดใจซื้อ แม้จะลดราคาแล้วก็ปาเข้าไป ๓๕,๐๐๐ บาท แต่ไม่เป็นไร ส่วนเครื่องเสียงก็เป็นชุดเก่าจากชั้นบน เนื่องจากเมื่อตอนอยู่ชั้นบน จะเล่นแต่ละทีแสนจะลำบาก แต่มาตรงนี้แล้ว โต๊ะนี้เลื่อนได้ง่ายๆ สามารถเข้าไปจัดสายด้านหลังได้ทุกเวลา ส่วนม่านสีน้ำเงินด้านข้างและโคมไฟ ได้รับอุปการะจาก IKEA ส่วนตู้หนังสือ นั้นขนลงมาได้ส่วนเดียว จึงต้องเลือกแบบเจ๋งๆหน่อย (เอาไว้โชว์ซะล่ะมากกว่า) รูปภาพที่แขวนนั้นก็เช่นเคยจากลุงมอเตอร์ไซด์ แต่ที่มีปัญหาก็คือโซฟาที่แม่นั่งอยู่ ตัวปลอกเบาะ มาจากIkeaตอนลดราคา แต่พอมาคิดราคาค่าไส้ในแล้ว รวมกับค่าแรงทำไม้ที่พ่อออกแบบแล้วก็ค่อนข้างสูง แม่ก็เลยจะไปเอาจาก index ซึ่งพ่อไม่ค่อยชอบเพราะมันโหล แต่แม่เห็นว่ามันถูกกว่า แต่สุดท้ายแม่เห็นว่าพ่อน้อยใจก็เลยกลับมาใช้วัสดุไม้ใหม่ แต่ก็ไม่ใช่แบบที่พ่อคิดอยู่ดี กลับเป็นแบบของ habitat ที่แม่ให้พ่อมา ก็อปปี้ เอาไม่เป็นไรที่สุดก็ออกมาจนได้ ไม่มีใครรู้หรอกว่าเป็นแบบก็อปมานอกจากพ่อ ส่วนชั้นขาวข้างๆนั้นจะต้องปรับปรุงให้แข็งแรงยิ่งขึ้น

ปีก่อน แม่กำลังอินกับห้องที่หัวหิน มันสบาย มีความสุข ในขณะที่เราอยู่บ้านก็ไม่มีความสุขเท่า ประกอบกับคุณยายอยากต่อเติมห้องชั้น๓ขึ้นไปอีก พ่อก็เลยคิดว่าในเมื่อเรามีห้องชั้นล่างอยู่แล้ว มีบ่อน้ำที่แสนสวยอยู่แล้ว ทำไมเราไม่อยู่ข้างล่างซะเลยล่ะ มีเสียงน้ำตกด้วย ตกแต่งให้สบายๆเหมือนที่หัวหิน เราก็รักบ้านเราได้ แต่แม่เป็นผู้มองการณ์ไกลเรื่องการใช้เงิน เพราะจะต้องใช้เงินมากถึง ๗-๘แสนบาทที่เดียว

งานเลี้ยงเพื่อนเมือง (interchange)

บ้านเสร็จแล้ว เมืองได้ใช้เป็นเจ้าแรกเลย ด้วยการสังสรรค์ให้กลุ่ม interchange มากันเยอะนะพ่อแม่ก็มากัน โดยมีหลักว่าให้แต่ละบ้านเอากับข้าวมาคนละอย่าง ส่วนเราก็เตรียมเครื่องดื่ม ข้าว ขนม และอื่นๆ ซึ่งคนที่เหนื่อยสุดก็เป็นแม่ตามเคย ได้ดูสไลด์กันอีกหนก็สนุกดีกันทุกคน ทุกๆคนก็ชอบบ้านเรานะ สวยเท่ สุดๆแล้ว

หายไปนาน กลับมาคิดดูว่าบล็อกนี่ก็เปรียบเป็นสมุดบันทึกเล่มหนึ่งของเรา ของพ่อเหมือนกันนะ หลายๆเรื่องเราก็ยังคุยกันได้ แม้จะเป็น oneway ก็ตาม ก็เลยคิดว่า เมื่อเราจะให้ความสำคัญแล้ว เราก็หาเวลาทำให้ได้ เริ่มเลยแล้วกัน

ซ่อมบ้าน

ซ่อมบ้าน
คอนโดยังไม่เสร็จ แต่ที่บ้านก็ต้องซ่อมแล้ว เพราะรกเหลือเกิน เหมือนจะรอแต่ห้องใหม่เท่านั้น ต่อไปนี้ แม่มี่ประกาศิตแล้วนะ ว่าบ้านจะต้องสวย ไม่รก ต้องช่วยรักษาความสะอาด ห้ามส่งเดชเด็ดขาด มาตรฐานชีวิตจะต้องดีขึ้นกว่านี้ให้ได้ ..ถ้าเห็นด้วย เราก็ต้องร่วมกันปฏิบัตแล้วล่ะ

คอนโด

จวนเสร็จแล้ว
ใกล้เสร็จเต็มทีแล้ว คอนโดที่ใช้เงินเป็นแสน เพื่อซ่อมให้ได้ดังใจ ห้องน้ำเล็กลง แต่สวยขึ้น แม่ก็ยอมเอาอ่างอาบน้ำออก โดยแลกกับตู้อาบน้ำ ที่สำคัญคือ ฝักบัวริมระเบียง ตามใจพี่เมฆ พ่อทำให้แล้วนะ หลังจากนี้ก็ต้องช่วยๆกันใช้หน่อย ไม่งั้นแม่มึงเบิ้ลตายแน่

ตัดผม

ตัดผม
วันสำคัญยิ่งของเมือง หลังจากอตสาห์ไว้ผมมา ๑๐เดือนเต็มๆ ก็ต้องมาตัดทิ้งทั้งหมด เพราะร.ด.นี่แหละ....คิดว่าครั้งหนึ่งในชีวิตลูกผู้ชายแล้วกันนะ ที่ได้ไว้ผมยาวขนาดนี้

ปัจฉิมนิเทศ

ปัจฉิมนิเทศ
อิตาลี น่าจะเป็นกรุ๊ปสุดท้ายที่มาถึงเมืองไทย จึงมีประชุมเพื่อปัจฉิมนิเทศทันที ระหว่างการบรรยายโดยคนแก่นี่ เหลือเกินจริงๆสำหรับพ่อ ..แม่ยังทนไม่ค่อยไหวเลย ตอนจบแลก็มีการประกาศนียบัตรด้วย

7 / 07 / 2007

ในวันซ้อมรับปริญญา พ่อไปถ่ายรูปให้ตอนเช้า แล้วเอามาจัดเป็นช่องๆ(อีกแล้วครับ) ขยายใหญ่ ไปตั้งไว้หน้างาน ให้แขกที่มางานเซ็นชื่อแสดงความยินดี ทุกคนชอบกัน (พ่อยังชอบเลย) ไม่เป็นเรื่องยากสำหรับเราเลยในการทำรูปแบบนี้ แต่สำหรับ “หมอ”แล้วเขาก็นึกไม่ถึง เขาดีใจ และขอบคุณเรามาก แต่เรากลับคิดว่าที่เราทำนี่เป็นการตอบแทนคุณเขามากกว่า ครอบครัวนี้เขาดีกับเรามาก เวลาพ่อแม่ไม่สบาย เขาก็ไม่เคยรีรอที่จะช่วยเลย นี่แหละ เมื่อมีโอกาสที่จะช่วยเหลือใครได้ ก็จงรีบทำ

ลุงหวัดเป็นตัวแทนมอบของขวัญให้พี่หมู ก่อนจะถ่ายภาพหมู่กัน

กลับถึงบ้านก็ ๔ โมงได้แล้ว พอ๖โมงเย็นก็ไปงานเลี้ยงฉลองรับปริญญาของพี่หมู คนเยอะมาก ทุกๆคนจะจำเมืองไม่ได้เลย ด้วยทรงผมแบบนี้หลายคนว่าเหมือนแม่มาก

วันที่ ๗ เดือน๗ ปี ๒๐๐๗
๑๐ เดือนผ่านไป สำหรับโครงการAFS คืนก่อนหน้านี้ แม่นอนไม่หลับเลย ปลุกพ่อตอนดึกมากแล้ว บอกว่า “ พ่อ..แม่นอนไม่หลับเลย..ตื่นเต้น..ลูกอ้วนจะกลับมาแล้วนะ” ไม่น่าชื่อว่าแม่จะทนรอได้ถึง ๑๐ เดือน แล้ววันนี้ก็มาถึง แม่ลูกก็ได้กอดกันอีกครั้งหนึ่ง น้ำตาของแม่ก็ซึมออกมาด้วยความดีใจอย่าสุดกลั้น ..ต้อนรับสู่บ้านเราครับลูก

วงเวียนแห่งวินัย

วงเวียนแห่งวินัย
ช่วงที่ผ่านมาพ่อ แม่ ต้องไปดูงานซ่อมที่คอนโดกฤษดา บ่อยๆ ภาพนี้เป็นวงเวียน ก่อนจะออกไปถนนใหญ่ (มองตรงไปที่เห็นเสาค้ำต้นไม้) โดยปกติสำหรับการจราจร เราจะต้องวนไปทางซ้ายเสมอ แต่คนส่วนใหญ่ที่นี่ จะออกไปทางขวาเลย เพราะรถมีน้อย จะโง่อ้อมไปทำไม แต่ทุกครั้งที่พ่อขับมาถึงตรงนี้ จะนึกถึงบทสนทนาระหว่างพ่อกับเมืองเสมอ พ่อกำลังอธิบายถึงคำว่า “วินัย” คือการทำตากกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะอยู่ต่อหน้าหรือลับหลังก็ตาม แต่พอพ่อขับเลี้ยวขวาย้อนเข้าวงเวียน เมืองก็บอกว่า “พ่อน่าจะมีวินัยนะ” ... ทุกวันนี้ ทุกครั้งเมื่อพ่อขับมาถึงวงเวียนนี้ พ่อก็ไม่เคยย้อนศรอีกเลย นึกถึงความถูกต้องที่เมืองสอนเสมอ พ่อก็เลยเรียกว่า “วงเวียนแห่งวินัย”

ตลาดดอนหวาย

ที่ตลาดดอนหวาย ก่อนที่เมฆจะเดินทางไปสิงคโปร์ ได้ไปทานอาหารด้วยกันในเช้าวันเสาร์ คนที่ปลื้มที่สุด น่าจะเป็นคุณยาย..ความสุขของคนแก่ ก็คงมีเพียงได้กินข้าวกับลูก หลาน ก็เป็นที่สุดแล้ว

ซ่อมคอนโด

สาเหตุก็มาจากน้ำรั่ว ไปท่วมพื้นห้อง จึงบวมขึ้น แม้จะไม่มากจนทนไม่ไหว แต่มันแทงใจแม่เกินกว่าจะทน ประกาสิตทันที ว่าจะเปลี่ยนพื้น ไหนๆก็จะเปลี่ยนแล้วก็ซ่อมครัวกับห้องน้ำไปด้วยเลยแล้วกัน แหม..อย่างงี้ก็เข้าทางพ่อเลย ไม่ชอบอยู่แล้ว เจ้าห้องน้ำนี่ ถือโอกาสเลยแล้วกัน ส่วนชุดครัวที่เห็นสีเขียวนั้นไปซื้อมาจากงาน สถาปนิก เป็นตัวโชว์ที่มีอยู่เพียงตัวเดียวเลือกสีไม่ได้ เพราะลดราคามาแล้วอย่างมาก แม้สีจะไม่เจ็บพอ แต่ฟอร์มเท่ดี เดียวเราใช้ไฟช่วยเสริมหน่อยก็เหลือแดกแล้ว

พื้นที่ปูใหม่นั้นเป็นกระเบื้องลายไม้ ยังไม่ค่อยมีคนใช้กัน เพราะเพิ่งมีผลิตออกจากโรงงานสดๆร้อนๆ ถ้าบอกใครว่าเปลี่ยนเป็นกระเบื้อง คนคงส่ายหน้าแน่นนอน แม้แต่แม่ก็ไม่คิดว่าพ่อจะใช้ แต่ผมเห็นว่า ทั้งของเดิมของใหม่มันก็เป็นไม้ปลอมทั้งคู่แหละ และกระเบื้องใหม่นี้ก้เหมือนไม้เป็นอย่างมากบวกกับคุณสมบัติที่ไม่กลัวน้ำด้วยแล้ว เราจึงเห็นพ้องกันว่า.. "วัดดวงแล้วกัน"

ห้องน้ำถูกรื้ออกจนเหี้ยนเลย ทำใหม่ทั้งหมด ห้องน้ำมีรายละเอียดเยอะมาก แต่ก็มี ข้อจำกัดนิดหน่อย เช่น ชักโครกจะต้องอยู่ในตำแหน่งเดิม เพราะรูส้วมไม่สามารถเจาะใหม่ได้ ท่อน้ำร้อน ก็เคลื่อนย้ายยากฯลฯ ก็ต้องรอดูกันต่อไป ว่าจะออกหมู่หรือจ่า สวยหรือไม่สวย

นับไปอีกก็คงจะประมาณ ๒ อาทิตย์ ก็คงจะเสร็จ ซึ่งแม่รอเหลือเกินว่าจะได้มาพร้อมหน้ากันอีกที่นี่..เร็วๆนี้