
ถึงวันสุดท้ายแล้วก็มาถึงสนามบินมาเก๊าจนได้ แต่การเดินทางค่อนข้างเสียเวลาพอสมควร

เดี๋ยวนี้การมาเที่ยวก็ต้องเปิดหนังสือแนะนำที่กิน เราก็ลองหาที่กินตามหนังสือแนะนำเหมือนกันนะ แต่ไม่ค่อยสำเร็จ ที่สุดก็ “ร้านนี้ก็ได้น่า” ในภาพแม่กับพี่เมฆกินบะหมี่น้ำ ส่วนพ่อก็ของพื้นๆเช่น ข้าวหมูทอด!!!

อีกตลาดหนึ่งก็เป็นตลาดของเล่น พ่อบอกพี่เมฆว่า “แม่นี่ดีนะ หาความสุขได้ง่ายๆดีจริงๆ”

สำหรับพี่เมฆแล้ว HMV ก็คือสวรรค์นั่นเอง หลังจากอัดอั้นไม่ได้ซื้อcdมานานนับปี บัดนี้ได้เวลาแล้ว พี่เมฆใช้เวลาเป็นวันๆ ไม่รู้เบื่อเลย ณ ที่นี้ แต่เมื่อจะจ่ายเงินก็ใช้สติอย่างมากที่จะไม่ตามใจตัวเอง คือซื้ออย่างมีเหตุผลอย่างสุดๆแล้ว


คืนที่สองนี้แม่ก็มาเดินที่ lady market อีกที แล้วก็ไปต่อที่temple market สำหรับพ่อแล้วดูตลาดนี่แล้ว เหมือนที่หัวหินเลย แต่นี่แหละมันส์สสส..สำหรับแม่ เดินไม่รู้เบื่อ ส่วนพ่อก็ต้องคอย ๆ ๆ ๆ จนกว่าแม่จะเสร็จ เพื่อพากลับโรงแรมซึ่งแม่ก็ไม่ค่อยจะอยากจำทางเอาซะเลย


ระหว่างก่อนที่จะมาที่ IKEA ก็ผ่าน snoopy world ซึ่งไม่ได้ไปดูหรอกเพราะคิดว่า ถ้าผ่านของญี่ปุ่นมาแล้ว ที่นี่ก็ไม่สนใจแน่นอน แล้วก็เลยมากินข้าวแล้วก็เดินดูของที่ikea ซึ่งก็สนุกเหมือนเดิม คงเป็นเพราะเรามีอารมณ์แต่งบ้านอยู่ตลอด โดยเฉพาะแม่จะคิดถึงแต่ที่หัวหิน

วันที่สอง พี่เมฆแยกไปเที่ยวดีสนีย์แลนด์กับพี่เบนซ์ (ที่พอดีมาฮ่องกงกับแฟนพอดี) ส่วนพ่อแม่ก็มาเดิน outlet ซึ่งเป็นที่หายของมีตำหนิจากโรงงาน นี่เพราะมีคนแนะนำในหนังสือนะถึงมาถูก ไม่งั้นคงไม่กล้าขึ้นมาแน่นอน เพราะแม่งเก่ามาก จนไม่น่าเชื่อว่าจะมีของขายในนั้น เดินดูมาก็หลายชั้นแต่ก็ไม่มีอะไรเร้าใจเลย ทั้งของและราคา

เวลาสองทุ่ม เรามาที่ริมฝั่งเพื่อจะดูการแสดงแสงเสียง symphony of light สวยดี ก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมากนัก แต่เพราะเราไม่ได้รีบเร่งอะไรก็มาดูซะหน่อย

มาถึงท่าเรือฮ่องกงแล้ว ก็ด้วยความหิว จึงเลือกเข้าร้าน ยาชิโนย่า(ชื่อถูหรือเปล่าไม่แน่ใจ) เพราะจำได้จากที่ญี่ปุ่น แต่เมนูที่นี่ต่างออกไปนิดหน่อย

มาถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองก็ให้สงสัยกับสัญญาลักษณ์การยืนคอยนี้ ว่าดูจะไม่ค่อยสุภาพเลยนะ เล่นใช้ตีนเปล่าเลย ทำไมไม่ทำเป็นรูปรองเท้าก็ได้นี่ ว่ามั้ย

ภายในเรือก็นั่งสบายมาก ถามพี่เมฆว่า “คิดว่าในเรือนี้จะปล่อยยานอนหลับออกมาเหมือน ชิงกันเซ็นในญี่ปุ่นหรือเปล่า” “เมฆคิดว่ามีแน่นอน”!!!

การไปฮ่องกงนี้เราไปโดยสายการบินแอร์เอเชีย ซึ่งไม่ได้เข้าไปลงที่สนามบินในฮ่องกง แต่ไปลงที่มาเก๊า ซึ่งเป็นอีกประเทศหนึ่ง แล้วจึงนั่งเรือ turbojet ข้ามเกาะไป ใช้เวลาประมาณ ๑ ชั่วโมง ในภาพขณะรอที่จะขึ้น turbojet

ทริปฮ่องกงนี้ พ่อกับแม่จองตั๋วเครื่องบินตอนที่กำลังรอผลการตรวจของแม่ (ก่อนผ่าตัด) เพราะการเที่ยวก็เป็นความสนุกเล็กๆน้อยๆเมื่อได้นึกถึงของแม่ เสียแต่ว่าครั้งนี้เราไม่ได้ไปพร้อมกันทั้ง4คนเท่านั้นเอง ขณะนั้นพี่เมฆจะไปด้วยหรือเปล่ายังไม่รู้เลย(ขณะจองตั๋ว) แต่สุดท้ายก็จัดเวลาเพื่อจะไปด้วยกันได้ ซึ่งพ่อก็รู้ล่ะว่าถ้าทำเพื่อแม่แล้ว ทุกคนก็เต็มใจ
No comments:
Post a Comment