11 February 2008

congratulations, WITEE

จำได้ว่าเราเคยมีความรู้สึกอย่างนี้มาครั้งหนึ่ง เมื่อ4 ปีที่แล้ว เมื่อวันที่เรารู้ข่าวว่าเมฆสอบได้ทุนสิงคโปร์ วันที่เราภูมิใจที่สุดว่าลูกได้เข้าไปอยู่ที่ที่ดีที่สุดแล้ว ด้วยความสามารถของเขาเอง เขากำลังก้าวย่างเข้าสู่จุดเปลี่ยนในชีวิตที่เขาออกแบบเอง เราชื่อมั่นว่าเมล็ดพันธุ์เราดีพอกับดินที่ดีที่สุด แล้ววันหนึ่งเขาก็จะเจริญเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

วันนี้เราก็ได้รู้สึกอย่างนั้นอีกครั้ง เพียงแต่เปลี่ยนจาก “เมฆ” เป็น “เมือง”
ต่อจากนี้ จะเป็นช่วงฮันนี่มูนของเมือง เมืองจะได้ลิ้มรสความหอมหวาน ความอิ่มเอม ความภาคภูมิใจ อย่างที่ใครก็อธิบายให้ฟังไม่ได้ ต้องผู้ลิ้มรสเอมเท่านั้นจึงจะรู้ว่า มันอบอุ่นในใจอย่างไร
“ยินดีด้วย..เมือง น่าภูมิใจจริงๆนะ...เมืองทำได้แล้ว พิสูจน์แล้ว ดีใจด้วยอีกครั้งนะ”
ชีวิตจะเหมือนเกมส์หรือเปล่านะ เราผ่าน Level หนึ่งแล้ว ก็ต้องมาเริ่มอีก level หนึ่ง เริ่ม reset คะแนนกันใหม่ เริ่มต้นใหม่ทำคะแนนใหม่เพื่อจะผ่านไปอีกlevel หนึ่ง ไม่มีวันจบ แต่คะแนนก็ใช่จะไม่สำคัญนะ เพราะเราไม่รู้หลอกว่า level ต่อไปเขาต้องการอะไรบ้างเพราะฉะนั้นเราจึงต้องทำวันนี้ให้ดีที่สุดเสมอ

ในภาพบนเมืองจะอยู่ในลำดับ ๙ ตามเลขที่สมัคร
วันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์
อาจารย์หนึ่ง (ผู้อำนวยการโครงการ INDA) โทรมาหาแม่ แต่แม่ไปปฎิบัติธรรมแล้ว พ่อจึงเป็นผู้รับโทรศัพท์ แทน อาจารย์หนึ่งโทรมาเพื่อแสดงความยินดีด้วย บอกว่าเมืองสอบได้ลำดับที่ ๑๒ เธอกล่าวชมเชยมากถึงความสามารถ ยินดีที่จะมาช่วยกันสร้างโปรแกรมนี้ให้มีชื่อเสียง พ่อบอกอย่างถ่อมตัวว่า “เดี๋ยวครับ รอสอบสัมภาษณ์ก่อนครับ” “โธ่..คุณพ่อ ต่อให้สอบสัมภาษณ์ได้ 0 ก็ยังเข้าได้อยู่ดี เพราะคะแนนรวมทำมาดีอยู่แล้ว พอร์ตของเค้าก็ทำได้คะแนนเต็มนะคะ อาจารย์ทุกคนให้ A หมด” คุยไป ยอไป ยอมา ถ่อมตัวบ้าง แล้วสุดท้ายก็บอกว่า “พบกันวันรายงานตัวเลยนะคะ หรือไม่ก็วันปฐมนิเทศ”
วันนี้น่าเสียดายอยู่อย่างเดียวเท่านั้นว่า ถ้าแม่เป็นคนรับโทรศัพท์สายนี้ แม่คงต้องดีใจจนน้ำตาไหลแน่ ส่วนใบหน้านั้นไม่ต้องห่วงอยู่แล้ว คงจะบานเป็นจานดาวเทียมแน่นอน

No comments: