
สรุปว่าการปฏิบัติธรรมครั้งนี้ได้ผลดีมาก แม้ว่าในหลายเวลาพ่อจะมีความคิดขัดแย้งภายในตลอดเวลา แต่เราก็เห็นตัวเองว่าเรากำลังหมั่นไส้อยู่ ความคิดนั้นจะดี จะถูกหรือไม่ก็ไม่รู้ แต่รู้แล้วว่ากำลังคิด ..ก็น่าจะพอนะ แล้วก็สรุปได้อีกอย่างว่าคอร์ส 7 วันแบบของแม่ และของเมืองนั้น ครบถ้วนกว่า ได้ผลกว่า และดีกว่า

ห้องโถงชั้นบนที่ใช้เป็นห้องปฏิบัติ (และเป็นที่นอนสำหรับผู้ชายด้วย) ภายในเปิดแอร์เย็นสบาย ที่เห็นป้าผมขาวบนเวที คืออาจารย์เรณู ผู้เป็นเจ้าของคอร์สนี้ (3วัน2คืน) เป็นนักปฏิบัติและนักบรรยายตัวยงเลย แต่ปัจจุบันอายุมากแล้วจึงมิได้มาควบคุมด้วยตัวเอง จะมาเฉพาะวันเปิด และวันสรุปปิดท้าย ส่วนระหว่างนั้นจะเป็นเปิดวีดีโอบรรยายแทน แต่ก็มีวิทยากรให้คำแนะนำตลอดอยู่3-4ท่าน 2ภาพนี้ถ่ายในวันสุดท้ายตอนปิดแล้ว เพราะในระหว่างปฏิบัตินั้นไม่ควรหยิบกล้องออกมา ดูจะน่าเกลียดไปหน่อย

ภาพนี้ถ่ายจากระเบียงตึก พ่อมักจะมายืนพักตรงนี้หลังจากทานอาหารแล้ว มองไปเป็นนาดูแล้วสบายตา สบายใจดี

โถงที่เป็นห้องอาหาร ในรูปนี้เป็นวันปิด ก็เลยมีคนนอกเยอะ ในวันปกติที่ปฏิบัติก็จะเป็นอาหารมังสะวิรัติ ใส่ถาดหลุมบ้าง ก็โชคดีของพ่อหน่อยที่อยู่แค่ไม่กี่มื้อ เลยพอทน ส่วนอาหารว่าง หรือเครื่องดื่มเรียกว่ามีครบเลย

อาคารนี้เขาเรียกว่า “ศาลา” ชั้นบนจะเป็นโถงกว้างสำหรับการปฏิบัติ ส่วนชั้นล่างก็เป็นโถงกว้างเช่นกัน ขณะที่ไปเขาใช้เป็นห้องอาหาร รับผู้ปฏิบัติรวม 112 คน (ชาย22 หญิง 90คน) บริเวณโดยรอบก็ร่มรื่นดี

สถานที่นี้เรียกว่า ศูนย์2 อยู่ไกลมาก แต่ก็ดีเพราะใหม่มาก และกว้างขวาง ภาพนี้เป็นทางเข้าศูนย์
หลังจากที่คุณแม่ชักนำพ่อเข้าสู่วงการ ด้วยการจองคิวเข้าปฏิบัติธรรมที่ ยุวพุทธิกะสมาคม ไว้เป็นเดือนมาก่อนแล้ว จนมาถึงวันศุกร์ที่22ส.ค.ถึง24ส.ค.(3วัน 2คืน)ที่ผ่านมา พ่อก็เข้าปฏิบัติตามสัญญาด้วยความเต็มใจ
No comments:
Post a Comment