28 August 2009

DAY 1, July 28,2009

ขากลับออกมาก็นั่งรถไฟซะหลายทอด หลายต่อ กว่าจะกลับมาโรงแรมก็ค่ำมืดแล้ว ทำได้อย่างเดียวคือการเดินในบริเวณ Ikebukoro นี่แหละ สำหรับเมฆ ที่นี่น่าจะโอเคเพราะมีHMV ที่มีแผนกเพลงคลาสิคที่ใหญ่พอสมควร (แต่ซื้อได้น้อย) ส่วนเมืองกับพ่อก็ไปอยู่ที่Tokyu Hands สำหรับแม่เป้าหมายก็คือร้าน ๑๐๐ เยนก็สยายใจแล้ว

แต่ก็ยังมีเวลาแช่เท้านะ รูปแม่เบลอๆนี่แม่เลือกเองเลยนะ
มีงานของปิกัสโซ่เยอะขนาดนี้แล้ว มันต้องขึ้นป้ายใหญ่ขนาดนี้เป็นส่วนหนึ่งของตึกไปเลย ให้คนถ่ายรูปกันไป จะได้รู้ว่าไปไหนมา ฉลาดจริงๆ

บรรยากาศ และผลงานดีมาก แต่เราก็ไม่ค่อยได้ดื่มด่ำความงามมากนัก เพราะมัวแต่เดินถ่ายรูป


สำหรับเมือง เที่ยวนี้จะมีรูปมากหน่อย คงเพราะอยากมีรูปสวยๆเหมือนกัน ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงจะเบื่อน่าดู เดี๋ยวให้ไปยืนตรงนั้นตรงนี้

Hakone Open-Air Museum เป็นรายการแรกของญี่ปุ่น(หลังจากการเดินทางยาวนาน) ซึ่งพ่ออยากจะพามาตั้งแต่เที่ยวที่แล้ว(๓ ปีก่อน) แต่ครั้งนั้นเวลามันสั้นเกินไป เที่ยวนี้จึงต้องไม่พลาด ซึ่ง พอมาถึงก็เชื่อทุกคนพอใจ เพราะเราเป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นประติมากรรมมาอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ จะเสียก็อย่างเดียวที่เรามีเวลาน้อย เดินดู (หนักไปทางถ่ายรูปมากกว่า)จะนาทีสุดท้ายจนเขาปิดนั่นแหละ


ถ้าเป็นโปรแกรมทัวร์เขาก็จะนับคืนวันที่ ๒๗ ที่เราออกเดินทางจากสุวรรณภูมิ เป็นวันที่ ๑ แต่เรานับวันที่เราถึงโตเกียวเป็นวันที่ ๑ น่าจะตรงความจริงมากกว่า

เรามาถึงโตเกียวซัก ๘โมงกว่าๆ แต่รอแถวตรวจคนเข้าเมืองยาวมากทำให้สายไปหน่อย ก่อนที่จะแลกตั๋ว JR Pass เพื่อเดินทางไปโรงแรม ไดอิชิ Ikebukoro ซึ่งโชคดีมากเพราะสุดแสนจะใกล้สถานนีรถไฟที่สุดแล้ว

No comments: