ออกจากกันดั้มแล้วเราไปแวะอีกศูนย์การค้าหนึ่งที่ใกล้ที่สุด อยู่อีกชั่วโมงกว่าจึงกลับโรงแรมกัน
จะบอกว่ากันดั้มตัวจริงก็กระไรอยู่นะ เพราะมันไม่ใช่ความจริงนี่ เป็นการ์ตูน เอาเป็นขนาดเท่าที่ในการ์ตูนเขาจินตนาการไว้ก็แล้วกัน แต่เมื่อเข้าไปดูใกล้แล้ว เราก็มีอารมณ์ร่วมนะว่ามันเป็นตัวจริง วัสดุต่างๆมันเนี๊ยบไปหมด ไม่นับว่ามันขยับหัว หรือปล่อยควันได้นะ เรายังคิดว่ามันน่าจะเดินได้ด้วยซ้ำ
เดินมาไกลพอสมควรเชียว แต่เมื่อมาเจอที่โล่งริมน้ำแล้วก็หายเหนื่อย แดดอ่อนๆ ลมเย็นกับวิวริมน้ำทำให้เราสดชื่นขึ้น อิ่มแล้ว ถ่ายรูปแล้ว ก็มุ่งหน้าไปชมกันดั้มตัวจริงกัน
ออกจาก Miraikan แล้วเราต้องเดินไปหา gundam แต่คิดว่ามันถึงเวลาอาหารแล้วคงไม่มีที่ให้กินแถบนี้แน่ ก็เลยแวะซื้อของกินเล่น ที 7-11 กะว่าจะไปนั่งกินริมน้ำ
รูปเมฆ๒รูปนี้ในมุมเดียวกันดีทั้งคู่ พ่อถ่ายรูปหนึ่ง เมืองถ่ายรูปหนึ่ง แต่การจัดอัลบั้มหน้าคู่นี้จะต้องมีรูปเดียวเลยอัดมาให้แม่เลือก แม่ไม่เลือกเลยบอกว่าก็เอาทั้งสองสิไม่เห็นเป็นไร
เราอยู่จนปิดนั่นแหละแต่ไม่ลืมที่จะถ่ายภาพเอาไว้ด้วย
นึกไม่ถึงเลยว่าเมฆและเมืองจะชอบ และสนใจแนวนี้ด้วย เราก็เลยใช้เวลาค่อนข้างนาน โดยปกติเวลาพ่อพาไปพิพิทธภัณฑ์ก็เกรงใจอยู่ ไม่กล้าอยู่นานกลัว(แม่)เบื่อ เราก็เลยไปแบบให้รู้ว่า “ฉันมาแล้วนะ” ถ่ายรูปแล้วก็กลับ ที่นี่แม้แม่จะเบื่อบ้าง แต่ก็ยินดีนั่งคอยนะ
ที่Miraikanนี้ ไม่เคยอยู่ในโปรแกรมการท่องเที่ยวของใครแน่นอน แต่มีหนังสือแนะนำอยู่เล่มหนึ่งที่เราเชื่อเราจึงมา
รถไฟสายที่จะไปโอไดบะเป็นขบวนสั้นๆ เราได้ขึ้นตู้หน้าซึ่งมีมุงมองที่แปลกตามาก เมืองถ่ายภาพชุดนี้แสดงถึงลำดับเหตุการณ์ต่างๆ(บางส่วน)ตลอดระยะเวลาเดินทาง(รูปจริงทั้งชุดมีเยอะ) เราผ่านเห็นกันดั้มแล้ว แต่ยังร้อน เราเลยไปพิพิทธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แนวใหม่กันก่อนดีกว่า
เช้านี้เราไม่มีอะไรต้องรีบร้อนแล้ว จึงนอนตื่นกันแบบสบายๆ สายๆเราก็ออกจากโอซาก้า เพื่อมุ่งหน้ากลับโตเกียว นั่งรถกลับไปอีก3ชั่วโมง เมื่อถึง Shinagawa แล้วเราเปลี่ยนแผนอีกคือ แทนที่จะมุ่งตรงโรงแรม เรากลับไม่ไปต่อ โอไดบะ เลยโคยฝากของไว้ที่สถานี เพื่อไป๒เป้าหมายคือ Miraikan และGundam
No comments:
Post a Comment