28 August 2009

DAY 3,July 30,2009


๒รูปนี้ อัพซ่อม เพราะ๒รูปข้างล่างทำไมคลิ๊กขยายไม่ได้ก็ไม่รู้

เรากลับมาที่ซับโปโรอีกครั้งเพื่อจะต่อรถไฟไป Outlet ที่ outlet เราก็ใช้เวลากันนานเหมือนกันนะ แม้จะไม่ค่อยได้ของเป็นกอบเป็นกำ เมืองได้เสื้อรักบี้ทิมเบอแลนด์ เมฆได้ของนิดหน่อยเพื่อฝากครูที่สิงคโปร์ แม่ไม่ค่อยประทับใจนัก เพราะราคาไม่ถูกเร้าใจพอ

การเลือกทานอาหารญี่ปุ่นก็เป็นประเด็นปัญหาของเรากันอยู่บ้างในการเดินทางครั้งนี้ แม่ก็จะเป็นห่วงเรื่องราคาแพง จึงขอเสียสละไม่ทาน เพื่อให้ลูกได้ทาน แต่นี่ไม่ใช่การแก้ปัญหาของเรานี่ เราน่าจะอร่อยด้วยกันได้ (ยกเว้นพ่อไว้คน) ทุกคนก็เลยเกร็งมากเวลาสั่งอาหาร ไม่อยากให้ครั้งหน้าที่เราจะไปเที่ยวกันอีก เป็นแบบนี้อีกเลย (พูดมากเดี๋ยวพ่อก็จะเป็นปัญหาไปอีกคน) รูปมุมเป็นร้านขายของ(ถูก)ที่ถ้าไม่ให้แม่แวะ มีหวังเป็นเรื่องแน่เลย

เดินไปเดินมา ร้าน(อาหาร)ก็ยังไม่เปิดซักที ก็เลยมาพักทานขนม(อร่อยมาก) ที่ร้านคุณลุงก่อนที่จะมีการโมโหหิวกัน

ร้าน music box นี่จริงๆแล้วก็แสนจะธรรมดานะ เพลงก็ธรรมดาๆ แต่เราก็ใช้เวลาอยู่นาน เพราะเราไม่รีบแล้ว อยู่ที่ไหนก็ได้ที่สนุก ที่นี่เมฆใช้เวลาเลือกเพลงเพื่อจะฝาก ไต้เล่อ นานหน่อย ก็งี้แหละ รู้เรื่องเพลงมาก ก็ต้องพิถีพิถันหน่อย


เพิ่งจะมีเที่ยวนี้แหละที่พ่อมีรูปสวยๆกับเขาบ้าง ขอขยายเต็มหน้าเลยนะครับ สีแดงก็ได้จังหวะดีเหลือเกิน เหมือนจงใจไปทำในโฟโต้ชอร์ปเลย

ระหว่างทางเดิน เรามองเห็นมุมสวยงามได้ตลอดเวลา ความพอดีเกิดขึ้นตรง เราอยู่คนละฝั่งคลองเล็กๆ ต่างคนก็มองเห็นมุมสวยซึ่งกันและกัน


รูปกำแพงแดง ดูดีเมื่อทุกคน(ทำท่า)ผ่อนคลาย เที่ยวนี้มีภาพจากหลายมุมกล้อง เนื่องจากเรามีกล้องถึง ๕ ตัว พ่อจะถ่ายรูปหมู่เป็นหลัก เมฆเมืองก็จะมีรูปในมุมแปลกๆ แอบถ่ายบ้าง สถานที่บ้าง ด้วยสายตามีศิลป์ไม่เป็นรองใคร ส่วนแม่ก็ถ่ายมากขึ้นจนสามารถเอารูปมาปิดช่องโหว่ของกล้องอีก ๔ ตัวได้เป็นอย่างดี

มาถึง “คลองโอทารุ” ก็สงสัยนะว่าแค่นี้มันก็ทำเป็นที่ท่องเที่ยวกันได้แฮะ แต่เราก็ถ่ายรูปกันได้ โดยไม่ค่อยสนใจคลองเท่าไร

ถ่ายรูปมาตลอดทาง มีคนเคยบอกว่า ถ่ายรูปแบบเรานี่ ไม่ต้องมาเที่ยวไกลๆก็ถ่ายกันได้นี่ คุณไม่ได้สนใจแบ็คกราวน์เป็นสถานที่สำคัญเลย ก็จริงนะ แต่ที่ผมถ่ายนั่นผมถ่ายอารมณ์ของเราต่างหาก อารมณ์ไปเที่ยวนี่ ไม่เหมือนอารมณ์อยู่บ้านนะ เสื้อผ้าด้วย ที่สำคัญเราบันทึกไว้เป็นหลักฐานไว้ว่า “เรามีความสุข” เพราะฉะนั้นแบ็คกราวน์จึงเป็นเรื่องรองสำหรับเรา

รูปนี้สวยเพราะ การซ้ำ (repeatition) การซ้ำของ คน ของสีเสื้อผ้า ของพื้นผิวผนัง ของขนาดรูป แต่ก็แปรเปลี่ยนในรายละเอียด ในจังหวะต่างๆ รูปเมืองด้านขวาที่มีคนเดินผ่านก็เป็นความบังเอิญ ที่สร้างความพอดีเหมือนกัน ภาพรวมจึงดูสวย

เราไม่ค่อยรู้เรื่องโอทารุนี้เท่าไร รู้แต่ว่ามี คลอง ร้านMusicBox ถนนสายซูชิ ตลาดขายของในร่ม ก็แค่นี้เอง เราก็มุ่งหน้าไปเดินแถวๆคลองกันก่อนเพราะมาที่นี่ยังเช้าอยู่ ไม่มีใครเปิดร้านใดๆ ระหว่างทางก็เดินกันสบายๆ เราก็ถ่ายรูปกันได้ทุกจุด แม้ผนังเห็นธรรมดาๆ เราก็ถ่ายด้วย

เรานอน(นั่งนอน)บนรถไฟมาตื่นเช้าปลายทางที่ ซับโปโร ประมาณ 7 โมงเช้า ตามแผนเดิมเราจะเข้าโรงแรม และเดินทางไปทุ่งดอกลาเวนเดอร์กัน แต่แผนมาเปลี่ยนเพราะว่าเราเช็คพยากรณ์อากาศจาก iphone ว่าวันนี้ฝนจะตก เราก็เลยเปลี่ยนไป “โอทารุ”แทน โดยฝากกระเป๋าไว้ที่สถานีซับโปโรนี่แหละ เพราะถ้าจะเข้าโรงแรมก่อนก็ต้องต่อรถไฟไปอีก๒สถานีโดยไม่จำเป็น

No comments: